“วีทีวี” (WeTV) ผู้นำการให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งแอปพลิเคชัน ภายใต้บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำการเป็นศูนย์รวมความบันเทิงแห่งเอเชีย เดินหน้าสร้างสีสันให้ตลาดวิดีโอสตรีมมิ่งไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด รุกเซ็กเมนต์ซีรีส์วายไทยเปิดโปรเจกต์ “ปฏิบัติการณ์หัวใจ ‘วาย’” จับมือ 3 พันธมิตรผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ “จีเอ็มเอ็ม ทีวี” “ทีวี ธันเดอร์” และ “สตูดิโอ วาบิ ซาบิ” ปั้นออริจินัล ซีรีส์วายไทย 3 เรื่องครบรส ประกอบด้วย “เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น” ซีรีส์วายจากนิยายชื่อดังที่มีผู้ติดตามอ่านอย่างล้นหลามบนโลกออนไลน์ “พฤติการณ์ที่ตาย” ซีรีส์วายแนวสืบสวนสอบสวนเรื่องแรกของเมืองไทย และ “เชือกป่าน” เรื่องราวคู่ขนานของซีรีส์เรื่อง “ด้ายแดง” ที่ประสบความสำเร็จในช่วงต้นปีที่ผ่านมา พร้อมเตรียมสร้างปรากฎการณ์สุดฟินให้กับเหล่าแฟนคลับสายวายด้วยกิจกรรมต่างๆ ตลอดครึ่งปีหลัง ตั้งเป้าขยายฐานผู้ใช้แอปพลิเคชันเพิ่มขึ้น 4 เท่า ภายในสิ้นปี
คุณกนกพร ปรัชญาเศรษฐ Country Manager, WeTV Thailand (ผู้จัดการประจำประเทศไทย) บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “‘คอนเทนต์’ คือสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่ง ในฐานะที่ WeTV เป็น แอปพลิเคชันที่มีจุดยืนทางการตลาดเป็น ‘ศูนย์รวมความบันเทิงแห่งเอเชีย’ เราจึงมุ่งสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่โดดเด่น และหลากหลายจากทั้งจีน ไทย และเกาหลีให้กับแฟนชาวไทย นอกจากจุดแข็งของการนำเสนอซีรีส์จีนคุณภาพระดับโลก ซึ่งเป็นออริจินัลคอนเทนต์ ที่ส่งตรงมาจากเทนเซ็นต์ พิคเจอร์ส ผู้ผลิตคอนเทนต์อันดับต้นๆ ของจีนให้คนไทยได้ชม แบบจุใจแล้ว WeTV ยังมีการจับมือกับพันธมิตรผู้ผลิตชั้นนำในประเทศไทย เพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์และขยายฐานผู้ใช้งานสู่กลุ่มเป้าหมายที่มีความหลากหลายขึ้น ควบคู่กับการนำเสนอเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์ต่างๆ โดยสามารถรับชม ผ่านแอปพลิเคชัน WeTV ได้ที่เดียวเท่านั้น ปัจจุบันสัดส่วนคอนเทนต์ ที่อยู่บนแพลตฟอร์มของ WeTV แบ่งเป็นออริจินัล
คอนเทนต์ 70% และเอ็กซ์คลูซีฟ คอนเทนต์ คิดเป็น 30% ของคอนเทนต์ทั้งหมด”
“คอนเทนต์ที่อยู่ในแพลตฟอร์มของ WeTV นั้นครอบคลุมตั้งแต่ซีรีส์ระดับคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์จีน ละครไทยจาก ช่อง 3 (ที่สามารถดูสดและย้อนหลัง) ซีรีส์เกาหลี ไปจนถึงความบันเทิงหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นรายการวาไรตี้ชั้นนำ และอะนิเมะ เป็นต้น นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังได้สัมผัสประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์ที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชม กับฟีเจอร์พิเศษ Flying comment ที่เปิดให้ผู้ชมได้แลกเปลี่ยนความคิดกับกลุ่มแฟนซีรีส์ด้วยกันเอง โดยสามารถร่วมคอมเม้นท์สด และเห็นคอมเม้นท์ของตัวเองวิ่งบนหน้าจอซึ่งปัจจุบันมีการใช้ฟีเจอร์นี้มากกว่า 4 ล้านครั้ง สำหรับคอนเทนต์ที่สร้างปรากฎการให้กับซีรีส์จีน คือ ปรมาจารย์ลัทธิมาร ซีรีส์แนวจีนย้อนยุคที่ดังต่อเนื่องข้ามปีได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และอีกหนึ่งประเภทคอนเทนต์ที่เห็นได้ชัด คือ ซีรีส์วาย ที่ไต่อันดับความนิยมจนติดอันดับต้นๆของแพลตฟอร์ม รวมถึงติดเทรนด์ทวิตเตอร์ทุกครั้งที่มีการออกอากาศ”
คุณกนกพร กล่าวเพิ่มเติมว่า “WeTV มองเห็นโอกาสการเติบโตของแพลตฟอร์มกับตลาดกลุ่มคอนเทนต์วายจึงได้วางแผนเพิ่มไลน์อัพในปี 2563 สร้างความแตกต่างในตลาดเสริมทัพทั้งส่วนที่เป็นออริจินัลคอนเทนต์ไทยและเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์ไทยและต่างประเทศ โดยตั้งเป้าในปีนี้ 6-8 เรื่อง เล็งเจาะกลุ่มเป้าหมายหลักคือ ผู้หญิง อายุ 13 – 34 ปี รวมถึงการขยายไปยังกลุ่มผู้ชมใหม่ๆ ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มเปิดรับคอนเทนต์วายมากขึ้น”
ล่าสุด WeTV ชิมลางโดยการจับมือกับ 3 ผู้ผลิตคอนเทนต์ยักษ์ใหญ่ ได้แก่ “จีเอ็มเอ็ม ทีวี” “ทีวี ธันเดอร์” และ “สตูดิโอ วาบิ ซาบิ” เปิดโปรเจกต์ “ปฏิบัติการหัวใจ ‘วาย’” เตรียมส่งซีรีส์วาย 3 เรื่อง ออกอากาศแบบเอ็กซ์คลูซีฟทางแอปฯ WeTV ที่เดียวเท่านั้น ประกอบด้วยซีรีส์วายจากนิยายชื่อดังที่แฟนๆ รอคอยอย่าง “เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น” ต่อด้วยซีรีส์วายแนวสืบสวนสอบสวนเรื่องแรกของเมืองไทย เรื่อง “พฤติการณ์ที่ตาย” และเรื่อง “เชือกป่าน” ซีรีส์เรื่องราวคู่ขนานของซีรีส์ด้ายแดง โดยซีรีส์ทั้งสามเรื่องจะทยอยออกอากาศตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป พร้อมเตรียมจัดกิจกรรมบนออนไลน์ อาทิ Live Chat, Online Fan Meeting ให้กับแฟนๆ ชาวไทยและในประเทศต่างๆ ตอกย้ำจุดยืนในการสร้างคอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่งให้แก่ผู้ใช้ WeTV นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายที่รอให้แฟนคลับได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการหัวใจ ‘วาย’ ในครั้งนี้อีกด้วย”
“วีทีวี รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ 3 ผู้ผลิตคอนเทนต์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย โดยทั้ง 3 ค่ายล้วนมีชื่อเสียง ในด้านการสร้างสรรค์ซีรีส์ที่มีคุณภาพ และมีฐานแฟนอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อนำมาผสานกับความแข็งแกร่งในด้านแพลตฟอร์มของวีทีวี เราจึงมั่นใจว่าโปรเจกต์ “ปฏิบัติการหัวใจ ‘วาย’ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากกลุ่มผู้ใช้เดิม และจะสามารถขยายฐานผู้ใช้ใหม่ให้เพิ่มขึ้น 4 เท่า ภายในสิ้นปี” คุณกนกพร กล่าวสรุป