Android Tips
มาทำความรู้จัก RAM, ROM และหน่วยความจำภายใน ในสมาร์ทโฟนกันดีกว่า
เชื่อว่าหลายคนก็เคยสับสนกับการอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับสเปกของสมาร์ทโฟนที่คุณสนใจ ซึ่งหลายคนอาจจะงงกับคำว่า แรม (RAM), รอม (ROM) และหน่วยความจำภายใน (Internal Memory) ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องดู แล้วเราเข้าใจเกี่ยวกับ 3 คำนี้มากเท่าไร บทความนี้เราจะมาอธิบายให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่าง แรม (RAM) รอม (ROM) และหน่วยความจำภายใน (Internal Memory) กัน
แรม (RAM)
RAM หมายถึง Random Access Memory เป็นหน่วยความจำชนิดหนึ่งที่จะเก็บความจำไว้ชั่วคราว เมื่อไม่มีไฟเลี้ยงแรมข้อมูลที่บันทึกไว้ในแรมก็จะหายไปหมด ผมจะอธิบายให้ชัดเจนและให้เพื่อนๆ นึกภาพออกว่าทำไมแรมยิ่งมีขนาดมากยิ่งดี
- ในการใช้งานสมาร์ทโฟนในแต่ละครั้งเมื่อเราเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนเราขึ้นมา ข้อมูลของแอพพลิเคชั่นนั้นจะถูกเก็บไว้ในแรม ซึ่งเป็นข้อมูลชั่วคราว
- เมื่อคุณปิดแอพพลิเคชั่นดังกล่าวลงข้อมูลการใช้งานแอพพลิเคชั่นนี้ก็ยังคงอยู่ในแรม
- ในเวลาที่คุณเรียกแอพพลิเคชั่นเดิมขึ้นมาอีกครั้ง หน่วยประมวลผลจะดึงข้อมูลจากแรมก่อน ซึ่งในแรมนั้นยังมีข้อมูลแอพพลิเคชั่นที่คุณเพิ่งปิดใช้งานไป
- นั้นส่งผลให้แอพพลิเคชั่นนั้นสามารถเรียกใช้งานและเปิดได้อย่างรวดเร็วขึ้น ในเวลาที่เราเปิดเครื่องหน่วยประมวลผลก็จะเรียกข้อมูลที่เก็บไว้ในแรมก่อนเป็นที่แรก
ในเมื่อแรมเป็นที่เก็บข้อมูลชั่วคราวยิ่งมีพื้นที่เก็บมากขึ้นเท่าไร นั่นก็แปลว่าเราสามารถเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เราใช้งานได้เร็วขึ้นเท่านั้น นี่ละครับเป็นเหตุผลที่เราต้องหาสมาร์ทโฟนที่มีขนาดแรมเยอะๆ เข้าไว้
รอม (ROM)
ROM เป็น RAM ชนิดพิเศษ ย่อมาจาก Read Only Memory แต่สิ่งที่แตกต่างจากแรมก็คือ ข้อมูลที่อยู่ในรอม (ROM) ยังคงอยู่แม้ในกรณีที่ไม่มีไฟฟ้าเลี้ยง ส่วนใหญ่แล้วข้อมูล OS (ระบบปฏิบัติการ) จะจัดเก็บไว้ภายในหน่วยความจำ ROM เพื่อให้แน่ใจถึงการบูตเปิดเครื่องที่รวดเร็วและเพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงจากผู้ใช้งาน แต่ถึงกระนั้นข้อมูลใน ROM ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยวิธีที่ถูกต้อง
หน่วยความจำภายใน (Internal Memory)
หน่วยความจำภายในของสมาร์ทโฟนอาจเป็นประเภท eMMC (embedded MultiMediaController) หรือ UFS (Universal Flash Storage) ซึ่งในบ้างครั้งอาจจะรองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ MicroSD หน่วยความจำภายใน (Internal Memory) เป็นหน่วยความจำถาวรที่มีการเก็บและลบข้อมูลจากผู้ใช้งานโดยตรง ซึ่งเมื่อไม่มีไฟฟ้าเลี้ยงข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำภายใน (Internal Memory) ก็ยังคงอยู่ไม่สูญหายไปไหน ข้อมูลส่วนมากที่จะเก็บไว้ในหน่วยความจำภายใน (Internal Memory) ก็คือ ภาพถ่าย วิดีโอ เพลง เอกสารและข้อมูลแอพพลิเคชั่น
ถ้าเราสังเกตดีๆ เราจะพบว่าทั้งแรม (RAM), รอม (ROM) และหน่วยความจำภายใน (Internal Memory) มีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลเหมือนกัน จะแตกต่างกันที่ประเภทของข้อมูลและลักษณะการเรียกใช้งานข้อมูล
- แรม (RAM) มีประโยชน์สำหรับสมาร์ทโฟนในการโหลดระบบปฏิบัติการและโปรแกรมทั้งหมด รวมถึงแอพพลิเคชั่นที่คุณใช้
- รอม (ROM) จะเป็นพื้นที่จัดเก็บที่ข้อมูลสำคัญของระบบปฏิบัติการที่ไม่ค่อยให้เปลี่ยนแปลงข้อมูลภายในรอม
- หน่วยความจำภายใน (Internal Memory) คือพื้นที่เก็บข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดของคุณ ยิ่งมีเนื้อที่มากเท่าไร คุณก็สามารเก็บ รูปภาพ วิดีโอ และแอพพลิเคชั่นได้มากเท่านั้น
ที่มา androidpit