Apple News
ข้อควรรู้ !! สรุปสิ่งที่ควรทำและห้ามทำเมื่อเจอแจ้งเตือนของเหลวใน iPhone
แม้ว่า iPhone รุ่นใหม่ๆ จะมีมาตรฐานกันน้ำ-ฝุ่น IP68 อยู่แล้ว แต่ก็ยังเกิดเหตุทมี่น้ำเข้าตัวเครื่องได้ง่ายๆ หรือเกิดความชื้นภายในตัวเครื่องได้อยู่ครับ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ก็จะมีการแจ้งเตือนความชื้นขึ้นมาที่หน้าจอ โดยสิ่งที่ควรทำและห้ามทำเด็ดขาดมีอะไรบ้าง Apple ก็มีอัปเดทให้ทราบกันครับ
การแจ้งเตือนความชื่นจะเกิดขึ้นเมื่อเชื่อมต่อสายหรืออุปกรณ์เสริม Lightning หรือ USB-C กับ iPhone XS, iPhone XS Max, iPhone XR หรือใหม่กว่า โดย iPhone อาจเตือนว่ามีของเหลวในขั้วต่อครับ
สิ่งที่ควรทำเมื่อแจ้งเตือนความชื้นหรือเปียกน้ำบน iPhone
ถอดสายจาก iPhone และถอดอีกด้านของสายจากอะแดปเตอร์แปลงไฟหรืออุปกรณ์เสริม
อย่าเสียบสายอีกครั้งจนกว่า iPhone และสายจะแห้งสนิท
ทำให้ iPhone แห้งด้วยวิธีดังนี้
- เคาะ iPhone กับมือเบาๆ โดยคว่ำขั้วต่อหรือพอร์ตลงด้านล่างเพื่อนำของเหลวตกค้างออก และวาง iPhone ไว้ในที่แห้งมีอากาศถ่ายเท
- หลังจากผ่านไปอย่างน้อย 30 นาที ให้ลองชาร์จด้วยสาย Lightning หรือ USB-C หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมอีกครั้ง
- หากยังเห็นการแจ้งเตือน แสดงว่ายังมีของเหลวในขั้วต่อหรือใต้พินของสาย วาง iPhone ไว้ในที่แห้งที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกเป็นเวลาไม่เกินหนึ่งวัน โดยสามารถลองชาร์จอีกครั้งหรือเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมในช่วงเวลานี้ ซึ่งอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมงจนกว่าจะแห้งสนิท
- หากโทรศัพท์ของแห้งแต่ยังไม่ชาร์จ ให้ถอดสายออกจากอะแดปเตอร์และถอดอะแดปเตอร์ออกจากผนัง (ถ้าเป็นไปได้) แล้วเชื่อมต่ออีกครั้ง
สิ่งที่ห้ามทำเมื่อ iPhone เปียก
- อย่าทำให้ iPhone แห้งโดยการใช้แหล่งความร้อนภายนอกหรือการฉีดลมใส่
- อย่าแหย่วัตถุแปลกปลอม เช่น สำลีพันก้านหรือผ้าขนหนู เข้าไปในขั้วต่อ
- อย่าใส่ iPhone ลงไปในถุงข้าวสาร เพราะการทำแบบนี้อาจทำให้เศษข้าวขนาดเล็กสร้างความเสียหายกับ iPhone
ทั้งนี้หาก iPhone ไม่ได้เปียก แต่ขึ้นแจ้งเตือนความชื้นอาจเป็นเพราะสายหรืออุปกรณ์เสริมอาจได้รับความเสียหายครับ
ที่มา : Apple