Smart Review
รีวิว Mi 11 Lite หน้าจอ 1 พันล้านสี กล้องหลัง 64MP ราคาไม่ถึงหมื่นบาท
รีวิว Mi 11 Lite สมาร์ทโฟนหน้าจอ AMOLED DotDisplay ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการแสดงผลสีแบบ 10-bit แสดงผลสีระดับ 1 พันล้านสี และยังมี HDR10 ที่ช่วยให้ภาพมีคอนทราสต์มากขึ้น ในราคาไม่ถึงหมื่นบาท
สรุปสเปค Mi 11 Lite
- ขนาดรอบตัวเครื่อง : 160.5 x 75.7 x 6.8 มม.
- น้ำหนัก : 157 กรัม
- หน้าจอแสดงผล 6.55 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล AMOLED แสดงผลสี 1 พันล้านสี มีอัตรารีเฟรช 90Hz และ HDR10
- หน่วยประมวลผลแบบ Snapdragon 732G
- RAM 8GB+128GB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล f/1.8
- กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้อง Macro 5 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1, NFC, Infrared และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 4250mAh รองรับ 33W
- สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง
- ลำโพงสเตอริโอ
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
Mi 11 Lite เป็นสมาร์ทโฟนใน Mi 11-series ที่มีราคาให้ทุกคนจับต้องกันได้ง่ายมากขึ้น แต่ยังอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ครบ โดอุปกรณ์ในกล่องประกอบไปด้วย
- ตัวเครื่อง Mi 11 Lite
- อะแดปเตอร์ 33W
- สาย USB Type-C
- สายแปลง Typec-C เป็น 3.5mm
- เข็มเปิดถาดซิม
- เคส
- คู่มือผู้ใช้ และบัตรรับประกัน
ดีไซน์ของ Mi 11 Lite มีความเพรียวบาง น้ำหนัก และดูทันสมัยด้วยการดีไซน์ฝาหลังมีขอบโค้ง 2.5D และกรอบตัวเครื่องที่โค้งเพื่อให้การจับใช้งานพอดีกับมือ
ตัวเครื่องที่ใช้รีวิวครั้งนี้เป็นสีฟ้า Bubblegum Blue ซึ่งฝาหลังนั้นป้องกันแสงสะท้อนและลดการเกิดคราบรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ด้านหลังมีเลนส์กล้อง 3 ตัว เป็นโมดูลกล้องแบนราบแทบติดกับเครื่อง เพราะนูนขึ้นมาเหลือฝาหลังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ประกอบด้วยกล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล f/1.8, กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2 และกล้อง Macro 5 ล้านพิกเซล f/2.4 ซึ่งทาง Mi เรียกกล้องตัวนี้ว่า Telemacro ที่สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้ชัดเจนมากขึ้น
กล้องหน้าเป็นดีไซน์แบบ Punch Hole ซึ่งเป็นการเจาะรูแล้วฝังกล้องหน้าไว้ในหน้าจอ ทำให้กินพื้นที่แสดงผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และช่วยลดขนาดขอบหน้าจอเพื่อการมองเห็นแบบเต็มตาที่สุด เวลาดูคอนเทน์ ดูหนัง หรือเล่นเกม ก็จะเห็นได้เต็มขอบจอทุกด้าน
จุดเด่นของรุ่นนี้อย่างแรกเลยคือ หน้าจอแสดงผล 6.55 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล AMOLED 10-bit แสดงผลสี 1 พันล้านสี มีอัตรารีเฟรช 90Hz และรองรับ HDR10 จะเห็นว่าสีสันที่เห็นบนหน้าจอนั้นสวยสดใสมากๆ
นอกจากนี้แล้ว หน้าจอยังครอบด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ลดรอยขีดข่วนและการตกกระแทกได้ โดยขอบกระจกมีความโค้งมน 2.5D เวลามือโดนขอบจอก็จะไม่รู้สึกคมนั่นเอง
ขอบด้านล่างตัวเครื่องจะมีถาดใส่ซิม, ไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และลำโพง
ขอบด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่สอง และอินฟราเรด (IR blaster)
ด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power ขอบโค้งที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
Mi 11 Lite ใช้ MIUI 12 ที่ครอบทับอยู่บน Android 11 เรียกว่าตัวล่าสุดตอนนี้แล้ว ทำให้ใช้งานฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้ทันทีตั้งแต่แกะออกจากกล่อง
เรามาไล่ดูเมนูต่างๆ ตั้งแต่การเชื่อมต่อกันก่อนเลยครับ ตัวเครื่องรองรับ 2 ซิมการ์ด และใช้งาน 4G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิมการ์ด ทำให้เวลาสลับเน็ตระหว่างซิมทำได้ทันที ไม่ต้องรอรีเซ็ตสัญญาณ
ในเรื่องของการเชื่อมต่อไร้สายอื่นๆ ก็รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Dual-band, Wi-Fi Direct, Hotspot, Bluetooth 5.1 และรุ่นที่นำเข้าวางจำหน่ายในไทยรองรับ NFC ด้วย
การแสดงผลมีให้เลือก 2 โหมดหลักๆ คือ โหมดสว่าง และโหมดมืด รวมไปถึงมีโหมดการอ่านสำหรับลดแสงสีฟ้าให้เป็นโทนสีอุ่นเพื่อความสบายตาในการมองดูหน้าจอ โดยอัตรารีเฟรชหน้าจอที่ตั้งค่ามาให้ในตอนแรกจะเป็นมาตรฐาน 60Hz เราสามารรถเลือกเป็น 90Hz เพื่อความลื่นไหลที่ดีที่สุดของภาพบนหน้าจอ
การปลดล็อคหน้าจอสามารถตั้งรหัสผ่าน ใช้ลายนิ้วมือ หรือปลดล็อคด้วยใบหน้าก็ได้
สำหรับการใช้งานมือเดียว เพื่อให้เอื้อมแตะให้ทั่วหน้าจอ สามารถเปิดโหมดถนัดมือเพื่อย่อขนาดหน้าจอลงได้ จากนั้นก็ใช้นิ้วแตะปุ่มโฮมแล้วปัดไปทางซ้ายหรือขวาก็ได้
Game Turbo ตัวช่วยในการเพิ่มประสิทธิตัวเครื่องให้ทำงานได้สูงสุดสำหรับการเล่นเกม เพื่อให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล สามารถเปิดใช้งานได้ในเมนูการตั้งค่า
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
Mi 11 Lite ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 732G โดยผลการทดสอบ AnTuTu เป็นการทดสอบภาพรวมของการทำงานในส่วนของหน่วยความจำแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือ GPU ทำได้ 339,580 คะแนน ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในระดับราคาเดียวกัน
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 5 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผล การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดย Single-Core ทำได้ 543 คะแนน และ Multi-Core ทำได้ 1714 คะแนน
ทดสอบเกม ROV เปิดโหมดเฟรมเรตสูง จะเห็นว่าเฟรมเรตนิ่งมากๆ ที่ 59-60fps ตลอดการเล่น แม้จะเป็นช่วงการร่วมทีมไฟต์ก็ไม่ตก เล่นได้ลื่นๆ และบางฉากก็วิ่งทะลุไปที่ 61fps
สำหรับการเล่นเกมหนักๆ อย่าง PUBG Mobile ต้องบอกเลยว่าภาพในเกมสวยคมชัด เลื่อนหน้าจอเพื่อเปลี่ยนมุมมองก็ลื่นไหลดีมากๆ ครับ และตอนกดยิง การตอบสนองเร็วมากๆ แตะนิ้วติดนิ้วไม่มีหลุด ซึ่งในรุ่นนี้มีอัตราการตอบสนองไวถึง 240Hz นอกจากฮาร์ดแวร์แล้ว ซอฟต์แวร์ที่มีบน Mi 11 Lite อย่าง Game Turbo ยังช่วยดึงประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องให้ทำงานได้เต็มที่ ก็จะช่วยให้การเล่นทำได้ไหลลื่น การสัมผัสต่างๆ ก็ตอบสนองไวอีกด้วย
Mi 11 Lite มาพร้อมระบบชาร์จไวสูงสุดถึง 33W ถ้าแบตใกล้หมดก็เสียบชาร์จแป๊บเดียวก็หยิบไปเล่นต่อได้ทันที
กล้องถ่ายรูป
Mi 11 Lite เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่ได้รับการถ่ายทอดประสิทธิภาพกล้องถ่ายรูปจากรุ่นพี่ด้วยกล้อง 3 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ขนาด 1/1.97 นิ้ว
ภาพถ่ายกล้องหลัก
ภาพถ่ายแสงน้อยและกลางคืน
ภาพถ่าย Portrait
กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เก็บภาพมุมกว้างได้ครบ ขอบภาพก็ยังให้รายละเอียดที่ดี และใช้งานได้ในโหมดกลางคืนด้วย
ภาพถ่ายกล้อง Ultra Wide
กล้อง Telemacro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพระยะปกติได้ และถ่ายภาพโคลสอัพสิ่งของหรือวัตถุเล็กๆ ให้เห็นรายละเอียดได้ชัดเจนกว่ากล้อง Macro ทั่วไป
ภาพถ่ายกล้อง Telemacro
กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซลฟี่ได้สวยทุกสภาพแสง เพราะใช้งานในโหมดกลางคืนหรือ Night Mode ได้ด้วย
นอกจากภาพนิ่งแล้ว วิดีโอยังถ่ายสนุกด้วยโหมดลูกเล่นต่างๆ ละฟิลเตอร์ที่ให้ใช้งานหลากหลาย เช่น Magic Zoom, ชัตเตอร์ช้า, Time Lapse กลางคืน, หยุดเวลา, โลกคู่ขนาน และวิดีโอแช่เฟรม
สรุป Mi 11 Lite ตัวเลือกคุ้มค่าในราคาตำ่กว่าหมื่น
จากการใช้งาน Mi 11 Lite ต้องบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจอีกรุ่นเลยในระดับราคาต่ำกว่าหมื่น หากใครกำลังมองหารุ่นที่มีดีไซน์บางเบา พกพาใส่กระเป๋ากางเกงได้ง่าย รวมไปถึงใครที่ชอบดูคลิป ดูหนัง จะได้หน้าจอ AMOLED แสดงผลสีระดับพันล้านสี คือสีสันสดใสสวยมาก แถมได้กล้องถ่ายได้สวยคมชัด ลูกเล่นใหม่ๆ ให้ได้ใช้งานเพียบด้วย
สรุปจุดเด่น
- สมาร์ทโฟนดีไซน์สวยเพรียวบาง น้ำหนักเบา ในราคาน่าจับต้องเพียง 8,999 บาท
- หน้าจอขนาด 6.55 นิ้ว 10-bit แบบ AMOLED DotDisplay รีเฟรชเรทที่ 90Hz และอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสที่ 240 Hz
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 732G
- แบตเตอรี่ความจุ 4250mAh รองรับการชาร์จไว 33W
- กล้องหลัง 3 ตัว โฟกัสเร็ว ถ่ายได้ทุกระยะ และกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล
- โหมดการถ่ายวิดีโอและฟิลเตอร์ต่างๆ ทำให้ถ่ายสนุกมากขึ้น
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
- แอปที่มาพร้อมเครื่องค่อนข้างเยอะ ไม่จำเป็น
Mi 11 Lite 8+128GB วางจำหน่ายแล้วในราคา 8,999 บาท พิเศษ! สำหรับผู้ซื้อระหว่าง 5-18 เมษายนนี้ รับ Mi True Wireless Earphone Basic 2 มูลค่า 999 บาท ฟรีทันที
[affegg id=23]