Android News
เปิดตัว Xiaomi Mi 5S และ Mi 5S Plus ดีไซน์โลหะโค้งเว้า สแกนนิ้วใต้กระจกหน้าจอ และกล้องหลังคู่
เปิดตัว Xiaomi Mi 5S และ Xiaomi Mi 5S Plus อย่างเป็นทางการ หลังได้รับความสนใจจากชาวจีนที่แห่กันมาลงทะเบียนความสนใจรุ่นดังกล่าวมากกว่า 1.82 ล้านคน
Xiaomi Mi 5S
Xiaomi Mi 5S มาพร้อมตัวเครื่องโลหะ 4 สี ได้แก่ สีดาร์คเกรย์ สีเงิน สีทอง และสีโรสโกลด์ โดยด้านหลังมีดีไซน์โค้งเว้าบริเวณขอบตัวเครื่อง ซึ่งเป็นการดีไซน์ให้สอดรับกับอุ้มมือขณะจับใช้งาน และด้านหน้าครอบด้วยกระจกขอบโค้งมน 2.5D โดยมีขนาดตัวเครื่อง 145.6 x 70.3 x 8.25 มม. น้ำหนัก 145 กร้ม
Xiaomi Mi 5S ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 821 ซึ่งเป็นตัวอัปเกรดมาจาก Snapdragon 820 มาพร้อมหน่วยความจำแรมประเภท LPDDR4 และความจำภายในตัวเครื่องแบบ UFS 2.0 โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ แรม 3GB + ความจำตัวเครื่อง 64GB และแรม 4GB + ความจำตัวเครื่อง 128GB
หน้าจอของ Xiaomi Mi 5S มีขนาด 5.15 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยในรุ่นแรม 4GB จะมีหน้าจอที่รองรับการรับรู้แรงกดได้ แบบเดียวกับหน้าจอ iPhone 6s, iPhone 7 และสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หลายรุ่น
Xiaomi Mi 5S มีระบบสแกนลายนิ้วแบบอัลตราโซนิกจาก Qualcomm ที่เป็นการฝังตัวอ่านลายนิ้วมือเอาไว้ในกระจก ซึ่งจะแตกต่างไปจากตัวอ่านลายนิ้วมือในรุ่นอื่นที่จะต้องสัมผัสกับนิ้วมือโดยตรง เช่น อยู่ที่ปุ่มโฮมหรือด้านหลังตัวเครื่อง.
ในส่วนของกล้องยังไม่มีอะไรใหม่ โดยมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX378 1/2.3 นิ้ว มีค่ารูรับแสง f/2.0 ประกอบด้วย 6 ชิ้นเลนส์ ให้มุมกว้าง 80 องศา พร้อมแฟลชแบบ Dual-LED (Dual tone) และระบบโฟกัสแบบ FDAF รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K ที่ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที และวิดีโอแบบสโลโมชั่นที่ความละเอียด 720p ที่ความเร็ว 120 เฟรมต่อวินาที
กล้องหน้ามีความละเอียด 4 ล้านพิกเซล เป็นกล้องแบบ Ultrapixel ค่ารูรับแสง f/2.0 ให้มุมกว้าง 80 องศา และม่ระบบตรวจจับใบหน้าสำหรับการเซลฟี่
Xiaomi Mi 5S รองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน NFC และรองรับเทคโนโลยี 4G+ สามารถใช้งานลายนิ้วมือร่วมกับระบบชำระเงิน Xiaomi Pay ในประเทสจีนได้ นอกจากนี้ก็ยังรองรับ 802.1 ac Dual band Wi-Fi กับ MU-MIMO, Bluetooth 4.2, Bluetooth HID, Wi-Fi Direct และ Wi-Fi Display
แบตเตอรี่ของ Xiaomi Mi 5S มีขนาดความจุ 3,200 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว QC 3.0 ผ่านการเชื่อมต่อด้วยพอร์ตตัวเครื่องแบบ USB Type-C
Xiaomi Mi 5S รุ่นแรม 3GB ราคา 1,999 หยวน (ประมาณ 10,400 บาท) และรุ่นแรม 4GB ราคา 2,299 หยวน (ประมาณ 11,900 บาท)
Xiaomi Mi 5S Plus
Xiaomi Mi 5S Plus มีดีไซน์คล้ายกับรุ่น Xiaomi Mi 5S แต่มีขนาดใหญ่กว่า และสเปคดีกว่า โดยมาพร้อมกล้องหลังแบบคู่ และความจำแรมสูงสุดมากถึง 6GB
Xiaomi Mi 5S Plus ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 821 มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ แรม 4GB + ความจำตัวเครื่อง 64GB และแรม 6GB + ความจำตัวเครื่อง 128GB ซึ่งรุ่นท็อปเคลมว่าทำคะแนนบน AnTuTu ได้สูงถึง 164,119 คะแนน ส่วนหน้าจอของ Xiaomi Mi 5S Plus มีขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1080p
กล้องหลังคู่ของ Xiaomi Mi 5S Plus มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์จาก Sony โดยตัวเลนส์หลักจะเป็นเซ็นเซอร์ระบบสีมาตรฐาน RGB และเลนส์อีกตัวจะทำหน้าที่เก็บสีขาวดำ แล้วนำภาพที่ได้มารวมกันเพื่อให้เกิดรายละเอียดที่ครบถ้วนด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า ClearSight
ตัวกล้องรองรับการถ่ายภาพ HDR, PDAF, RAW และมีแฟลชแบบ Dual tone อีกทั้งยังรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K ที่ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที และวิดีโอแบบสโลโมชั่นที่ความละเอียด 720p ที่ความเร็ว 120 เฟรมต่อวินาที เช่นเดียวกับในรุ่น Xiaomi Mi 5S
สำหรับแบตเตอรี่ของ Xiaomi Mi 5S Plus มีขนาด 3,800 mAh และรองรับ Quick Charge 3.0 ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ เหมือนกับรุ่น Xiaomi Mi 5S โดยอีกหนึ่งจุดแตกต่างคือเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือของรุ่น Mi 5S Plus จะอยู่ด้านหลัง ไม่ได้ฝังอยู่ใต้กระจกเหมือนในรุ่น Mi 5S
Xiaomi Mi 5S Plus รุ่นแรม 4GB ราคา 2299 หยวน (ประมาณ 11,900 บาท) และรุ่นแรม 6GB ราคา 2,599 หยวน (ประมาณ 13,500 บาท)
ทั้ง Xiaomi Mi 5S และ Mi 5S Plus จะเริ่มวางขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 กันยายนนี้ผ่านเว็บไซต์ค้าปลีกออนไลน์ JD.com และร้าน Xiaomi ในประเทศจีน