Featured
รีวิว Xiaomi Mi 9 SE กะทัดรัดพกพาง่าย ถ่ายภาพสวยอย่างมืออาชีพด้วย 3 กล้องหลัง AI
Xiaomi Mi 9 SE สมาร์ทโฟนที่มีขนาดหน้าจอเล็กกะทัดรัดด้วยขนาด 5.97 นิ้ว พกพาง่าย ถ่ายภาพสวยด้วย 3 กล้องหลังที่มีเทคโนโลยี AI และปลดล็อคหน้าจอได้รวดเร็วมากว่าเดิมเพียงแตะนิ้วลงบนหน้าจอ
สรุปสเปค Xiaomi Mi 9 SE
- ราคาเปิดตัวเริ่มต้น 11,999 บาท (มิถุนายน 2019)
- ขนาดตัวเครื่อง 147.5 x 70.5 x 7.45 มิลลิเมตร
- หน้าจอแสดงผลขนาด 5.97 นิ้ว AMOLED ความคมชัด Full HD+ อัตราส่วนหน้าจอ 19.5:9
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 10 บน Android 9 Pie
- ซีพียู Snapdragon 712
- จีพียู Adreno 616
- แรม 6GB
- ความจุตัวเครื่อง 128GB
- กล้องหลัง 3 เลนส์ 13 + 48 + 8 ล้านพิกเซล
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มุมกว้าง 123 องศา
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล 4-in-1 Super Pixel รูรับแสง f/1.75 Sony IMX586
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล f/2.0 4-in-1 Super Pixel
- แบตเตอรี่ 3070mAh Fast Charge 18W มีให้ในกล่อง
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
แกะกล่อง ดีไซน์ และหน้าจอแสดงผล
อุปกรณ์ที่มีให้ในกล่อง ได้แก่ ตัวเครื่อง Mi 9 SE, เคส, อะแดปเตอร์ชาร์จด่วน, สาย USB Type-C, ตัวแปลงพอร์ต Type-C to 3.5mm, เข็มจิ้มถาดใส่ซิม และคู่มือการใช้งาน
Xiaomi Mi 9 SE เป็นสมาร์ทโฟนที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดเหมาะมือเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ซึ่งการดีไซน์ให้มีขนาดเล็กกะทัดนี้ก็เพื่อให้ผู้ใช้งานมีความสะดวกในการพกพา และจับใช้งานได้ถนัดมากกว่าเครื่องที่มีขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีความบางมากเพียง 7.45 มม. และน้ำหนักเบา ถือใช้งานได้นานมากขึ้น
หน้าจอของ Xiaomi Mi 9 SE มีขนาด 5.97 นิ้ว ถือว่าเป็นขนาดพอดีไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป โดยมีการขยายพื้นที่หน้าจอให้ชิดขอบทุกด้านจนแทบไม่เหลือขอบ เพื่อทำให้ขนาดตัวเครื่องเล็กให้ได้มากที่สุด
สำหรับกระจกหน้าจอป้องกันรอยเป็นกระจกที่มีขอบโค้ง 2.5D ทำให้ขอบไม่คมและกรอบตัวเครื่องที่ดีไซน์แบบโค้ง ทำให้เวลาจับใช้งานนั้นกระชับ ไม่หลุดมือ และที่สำคัญรู้สึกถึงความสบายมืออีกด้วย โดยแผงหน้าจอของรุ่นนี้เป็นแผง AMOLED ที่มีอัตราส่วนคอนทราสต์ที่สูงมาก ทำให้การแสดงผลบนหน้าจอมีสีสันที่สดใส และจากการใช้งานพบว่าหน้าจอสามารถสู้แสงได้ดีเลยทีเดียว มองเห็นชัดขณะใช้งานกลางแจ้ง
รอยบากหยดน้ำบริเวณขอบหน้าจอด้านบนเป็นพื้นที่สำหรับติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล โดยมีการซ่อนลำโพงไว้ระหว่างหน้าจอและกรอบตัวเครื่อง รวมไปถึงการซ่อนเซ็นเซอร์แสงด้วย ทำให้ด้านหน้าดูสะอาดตามากๆ
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือถูกฝังไว้ใต้กระจกหน้าจอแสดงผล สามารถแตะปลายนิ้วลงบนหน้าจอเพื่อปลดล็อคได้รวดเร็วมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้งานเท่านั้น ยังช่วยให้ตัวเครื่องดูสวยโดยไม่ต้องมีปุ่มสแกนนิ้วมืออยู่ด้านหลังตัวเครื่อง
ด้านหลังได้รับการดีไซน์ด้วยกระจกขอบโค้ง 2.5D และลงสีแบบ Holographic Spectrum สามารถสะท้อนออกมาได้หลายเฉดสีเมื่อมองจากมุมต่างๆ และมีเลนส์กล้อง 3 ตัวที่จัดเรียงกันในแนวตั้ง โดยกรอบเลนส์นูนขึ้นมาเหนือฝาหลังเล็กน้อย ซึ่งประดับด้วยกล้องความละเอียด 13 + 48 + 8 ล้านพิกเซล และมีไฟแฟลช Dual LED
ขอบด้านล่างมีไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C และลำโพงตัวเครื่อง
ขอบด้านบนมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนและ IR Remote สำหรับใช้งานเป็นรีโมทคอนโทรลควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้ เช่น ทีวี และแอร์ เป็นต้น
ขอบด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power
ขอบด้านซ้ายมีช่องถาดใส่ซิมขนาด Nano SIM จำนวน 2 ช่อง
กล้องถ่ายรูป
Xiaomi Mi 9 SE มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่ออกมาเพื่อการถ่ายภาพอย่างมืออาชีพ โดยกล้อง AI ที่ให้ความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล มาดูกันว่ากล้องของรุ่นนี้สามารถถ่ายภาพออกมาได้ดีขนาดไหน
กล้องหลังของ Xiaomi Mi 9 SE ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.75 สามารถเลือกปรับความละเอียดลงมาที่ 12 ล้านพิกเซลได้ โดยมีการใช้เทคโนโลยีการรวม 4 พิกเซลเข้าด้วยกัน ทำให้มีขนาดพิกเซลที่ใหญ่ขึ้นเป็น 1.6 ไมครอน เก็บแสงได้สว่างมากขึ้น ถ่ายภาพออกมาได้คมชัดทั้งกลางแจ้งและที่แสงน้อย
AI scene recognition ถ่ายภาพสวยด้วย AI
ในหน้าจอแอพกล้องจะมีปุ่ม AI เพื่อเปิดการใช้ AI scene Detection สำหรับตรวจจับฉากที่กำลังถ่ายแล้วทำการปรับค่ากล้องให้เหมาะกับการถ่ายภาพนั้นๆ แบบอัตโนมัติ โดยจะมีไอคอนฉากต่างๆ ขึ้นมาบนหน้าจอขณะทำการถ่ายภาพ
Portrait Mode ถ่ายภาพบุคคลให้โดดเด่นมากขึ้น
Portrait Mode สำหรับการถ่ายภาพบุคคลนั้น จะเห็นว่า Xiaomi Mi 9 SE ทำออกมาได้ดีทีเดียว โดยสามารถตัดขอบระหว่างตัวแบบกับฉากหลังทำได้คมและเนียนมากๆ ซึ่งสามารถปรับความเบลอของฉากหลังได้ทั้งขณะทำการถ่ายหรือหลังจากถ่ายภาพไปแล้วก็ทำได้เช่นกัน โดยเราสามารถเลือกจุดโฟกัสใหม่ได้ด้วย อยากให้จุดไหนชัด และจุดไหนเบลอ ก็เลือกเองได้เลย
ภาพที่ถ่ายด้วย Portrait Mode สามารถเลือกแสงไฟ AI Studio Lighting ได้ด้วย ได้แก่ ธรรมชาติ ไฟเวที ภาพยนตร์ รุ้ง ผ้าม่าน จุด และแสงใบไม้ ซึ่งทุกเอฟเฟ็กต์สามารถใช้นิ้วลากเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งทิศทางของแสงได้ และแสงไฟแต่ละแบบก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป
Ultra Wide Mode ถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ
สำหรับเลนส์ Ultra Wide ที่มีมุมกว้างพิเศษ 123 องศา ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ระยะใกล้แค่ไหนก็สามารถเก็บภาพได้ครบโดยไม่ต้องถอยหลังอีกต่อไป และได้มุมมองภาพที่ใกล้เคียงกับการถ่ายด้วยกล้องแอคชั่น
Night Mode ถ่ายภาพแสงน้อยและกลางคืน ไม่ใช้ขาตั้ง
โหมดภาพกลางคืนหรือ Night Mode ก็ทำออกมาได้ดีเลยสำหรับ Xiaomi Mi 9 SE โดยเป็นการถ่ายภาพหลายเฟรมแล้วนำทุกภาพมารวมเป็นภาพเดียว ทำให้เก็บแสงได้สว่างขึ้น และที่สำคัญไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง
กล้องหน้าเซลฟี่ 20 ล้านพิกเซล ใบหน้าสวยด้วย Beauty Function
นอกจากกล้อง 3 ตัว ที่ให้ความละเอียด 48 + 8 + 13 ล้านพิกเซลแล้ว Xiaomi Mi 9 SE ยังมีกล้องเซลฟี่ที่ให้ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และ Beauty Function ทำให้รูปภาพจากการถ่ายเซลฟี่มีความคมชัดสวยงาม มีฟีเจอร์เพิ่มความเป็นประกายให้ดวงตา และปรับแต่งใบหน้าได้ออกมาสวยงามอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยี AI
กล้องหน้ายังมี Portrait Mode สำหรับเซลฟี่หน้าชัดหลังเบลอได้ด้วย ซึ่งซอฟต์แวร์กล้องในการทำทำเอฟเฟ็กต์โบ้เก้ทำออกมาได้ดีมากๆ ตัดขอบและเบลอฉากหลังได้เนียนมากๆ
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
Xiaomi Mi 9 SE รันระบบปฏิบัติการ MIUI 10 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ครอบทับอยู่บน Android 9 Pie โดยในเวอร์ชั่นนี้ได้รับการปรับปรุงให้สามารถทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้นบนหน้าจอที่มีอัตราส่วนกว้าง และอินเตอร์ที่ดูเรียบง่าย ไอคอนแอพที่มีอิสระมากกว่าการเป็นไอคอนสี่เหลี่ยมแบบเดิมๆ
Xiaomi Mi 9 SE สามารถซ่อนปุ่มนำทางบนหน้าจอ แล้วเปลี่ยนไปใช้ท่าทางการสัมผัสแบบเต็มหน้าจอได้ เพื่อให้เห็นหน้าจอได้แบบเต็มๆ โดยไม่ต้องมีปุ่มมาบดบังบนหน้าจอ
ในส่วนของ Quick Settings และ Notification จะใช้พื้นหลังสีขาวตัดกับสีฟ้า ในขณะที่เมนูการตั้งค่าตัวเครื่องมีการแบ่งหมวดหมู่การใช้งานให้ดูง่ายไม่ซับซ้อน และด้านการเชื่อมต่อรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ใช้งาน 4G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม รองรับ VoLTE, เชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi ac, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
หากเบื่อหน้าตาแบบเดิมๆ ก็มีระบบ Theme สำหรับให้ผู้ใช้งานเข้าไปดาวน์โหลดใช้งานเพื่อการปรับแต่งหน้าจอได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี
หน้าจอแสดงผลสามารถปรับโทนสีให้เหมาะการใช้งานในแต่ละช่วงเวลาได้ เช่น ความสว่างโหมดกลางคืน และอุณหภูมิโหมดกลางคืน หรือจะเลือกเปิดโหมดอ่านเพื่อให้หน้าจอเป็นโทนสีเหลืองอุ่น ให้ความรู้สบายตามากขึ้น
อัตราส่วนหน้าจอแสดงผล 19.5:9 ความคมชัดระดับ FullHD+ ทำให้การดูคอนเทนท์บนหน้าจอมีความคมชัด เป็นประโยชน์มากๆ เมื่อดูหน้าเว็บไซต์หรืออ่านบทความ ไม่ต้องเลื่อนหน้าจอบ่อยๆ และเมื่อดูหนังหรือวิดีโอก็จะได้มุมมองภาพแบบเต็มตามากยิ่งขึ้น รวมถึงการเล่นเกมก็จะได้มุมมองภาพในเกมได้กว้างมากขึ้นด้วย
หน้าจอของ Xiaomi Mi 9 SE ยังสามารถเลือกดูคลิปบน YouTube ในรูปแบบ HDR ความละเอียดสูงสุด 1080p @60fps ได้ด้วย ทำให้ได้ภาพที่สวยสดใสมากยิ่งขึ้น
Split Screen ฟีเจอร์การแบ่ง 2 หน้าจอเพื่อเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นได้พร้อมกัน 2 แอพ และสามารถลากที่เส้นแบ่งระหว่าง 2 หน้าจอเพื่อย่อหรือขยายขนาดหน้าจอได้ด้วย ซึ่งรองรับแอพยอดนิยมหลายตัว เช่น Facebook, WhatsApp, Twitter, LINE, YouTube เป็นต้น
ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยโดยการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ จากการทดสอบใช้งานพบว่าทำงานได้รวดเร็วดี แตะเบาๆ ไม่ต้องกดหนักมากก็สามารถสแกนได้
นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มลูกเล่นโดยการเปลี่ยนเอฟเฟ็กต์เวลาแตะนิ้วสแกนหน้าจอได้ด้วย
อีกหนึ่งเทคโนโลยีสำหรับการปลดล็อคหน้าจอคือระบบ Face Unlock การปลดล็อคหน้าจอได้ด้วยใบหน้า เพียงกดเปิดหน้าจอแล้วยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาส่องที่ใบหน้าก็จะปลดล็อคได้ทันที ซึ่งการมีทั้ง 2 ฟีเจอร์นี้ถือว่าดีมากๆ เพราะบางสถานการณ์เราไม่สามารถปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือได้ก็ใช้ใบหน้าแทน ในทางกลับกันถ้าไม่สะดวกใช้ใบหน้าปลดล็อคก็แค่วางนิ้วมือเพื่อสแกน
Second Space หรือพื้นที่ทับซ้อน เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราสามารถแบ่งพื้นที่ตัวเครื่องออกจากการใช้งานพื้นที่ปกติได้ แยกออกจากกันไปเลย ไม่เกี่ยวข้องกัน นั่นก็หมายความว่าเราสามารถใช้งานได้เหมือนกับสมาร์ทโฟน 2 เครื่องแต่อยู่ในเครื่องเดียวกัน ซึ่งพื้นที่ที่แบ่งใช้งานใหม่นี้จะต้องใช้รหัสผ่านเพื่อยืนยันตัวตนในการเข้าใช้งาน และสามารถสลับไป-มา ระหว่างพื้นที่ปกติกับพื้นที่ที่สองได้
ประสิทธิภาพการทำงาน เล่นเกม และแบตเตอรี่
Xiaomi Mi 9 SE รันระบบปฏิบัติการ MIUI 10 บน Android 9 Pie เวอร์ชั่นล่าสุด ใช้ชิป Snapdragon 712 Octa-core 2.3GHz มาพร้อมจีพียู Adreno 616 และแรมขนาด 6GB ความจุตัวเครื่อง 128GB โดยผลการทดสอบ AnTuTu ซึ่งเป็นการทดสอบภาพรวมของการทำงานในส่วนของหน่วยความจำแรมและประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 177,500 คะแนน ระดับคะแนนถือว่าทำได้ค่อนข้างสูงมากเมื่อเทียบสมาร์ทโฟนในระดับราคาเดียวกัน
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 4 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผล การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Xiaomi Mi 9 SE ทำคะแนน Single-Core ได้ 1,857 และ Multi-Core ทำได้ 5,890 คะแนน
Mi 9 SE มีฟีเจอร์สำหรับเร่งความเร็วในการเล่น ซึ่งเป็นการเตรียมซีพียูและหน่วยความจำแรมให้กับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ทำให้การเล่นเกมลื่นมากขึ้น
ทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile สุดยอดเกมแอ็คชั่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนาด้วย Unreal Engine 4 เป็นเกมที่มีภาพและกราฟิกที่สวยงามมาก ต้องใช้การควบคุมทิศทาง และความแม่นยำในการระบุเป้ายิง สามารถเล่นได้อย่างไม่สะดุด ไม่เจออาการกระตุก
ROV เกมมือถือที่ได้รับความนิยมมากๆ Xiaomi Mi 9 SE รองรับการเล่นในโหมดเฟรมเรตสูงและภาพในระดับ HD จากการทดสอบพบว่าเล่นได้ลื่นไหลดีตลอดทั้งเกม โดยเฟรมเรตที่ได้จะวิ่งอยู่ที่ 59-60fps ตลอดการเล่น ซึ่งนิ่งมากๆ ทำให้ภาพเกมดูลื่นไหล เล่นได้แบบชิวๆ และในช่วงเข้าทีมไฟต์ก็วิ่งไม่ต่ำกว่า 54fps เลย หมดปัญหาภาพกระโดดหรือกระตุกในช่วงเวลาสำคัญ และหน้าจอที่กว้างขึ้น ยังช่วยให้การเล่นเกมได้มุมมองที่กว้างมากขึ้น เห็นสภาพแวดล้อมหรือมีโอกาสในการเห็นศัตรูที่อยู่ริมขอบหน้าจอได้มากกว่าหน้าจอบนสมาร์ทโฟนทั่วไป ซึ่งก็เป็นจุดได้เปรียบที่ดีอย่างหนึ่งในการเล่นเกม
ทดสอบเล่นเกม Asphalt 9 : Legends เกมแข่งรถภาคใหม่ล่าสุดจาก Gameloft ที่มีการออกแบบมาเพื่อให้ประสบการณ์เกมคอนโซลที่สมจริงและภาพกราฟิกที่สวยงามมากขึ้นด้วยเทคนิค HDR ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ภาพสวยเต็มตามากๆ
แบตเตอรี่ของรุ่นนี้มีความจุมากถึง 3070mAh จากการทดสอบใช้งานทั่วไป เปิดกล้องถ่ายรูปไปร้อยกว่ารูป เล่นเกมต่อเนื่องเป็นชั่วโมง และเล่นโซเชียลทั่วไป พบว่าผ่านไปประมาณครึ่งวันแบตยังเหลือ 55% ซึ่งถือว่าแบตอึดพอสมควร
นอกจากนี้แล้ว Xiaomi Mi 9 SE ยังรองรับการชาร์จด่วน 18W ซึ่งแถมให้ในกล่องด้วย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม จากการทดสอบชาร์จ 16% ไปจนถึง 63% ใช้เวลาเพียง 30 นาที เท่านั้น ตอบโจทย์ในช่วงเวลาเร่งด่วนหรือตื่นมาแล้วลืมชาร์จไว้เมื่อคืน ก็สามารถเสียบชาร์จแป๊บเดียวก็ได้แบตรวดเร็วมากขึ้น
สรุปจุดเด่น
- Xiaomi Mi 9 SE เป็นสมาร์ทโฟนที่เล็กกระทัดรัด พกพาง่าย หน้าจอสีสันสดใส AMOLED และอัตราส่วนหน้าจอกว้าง 5:9
- มาพร้อมระบบปฏิบัติการ MIUI 10 บน Android 9 Pie เวอร์ชั่นล่าสุด
- ซีพียู Snapdragon 712 และแรม 6GB ใช้งานได้ลื่นไหล เล่นเกมกราฟิกสวยๆ ได้เต็มที่
- กล้องหลัง 3 เลนส์ 13 + 48 + 8 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพได้ทุกสถานการณ์ ทั้งมุมกว้าง และกลางคืน
- กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล f/2.0 เซลฟี่ได้สวย เก็บรายละเอียดใบหน้าได้คมชัด
- แบตเตอรี่ 3070mAh Fast Charge 18W มีให้ในกล่อง
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- มาพร้อมสายแปลงจาก USB-C เพื่อมาต่อเป็นช่องหูฟัง 5 มม.
ราคาและการจัดจำหน่าย
Xiaomi Mi 9 SE รุ่น RAM 6GB+128GB สี Piano Black และ Ocean Blue จะเริ่มเปิดให้จองอย่างเป็นทางการ (Pre-Order) ผ่านแอปพลิเคชัน Lazada ในวันที่ 17 – 21 มิถุนายน 2562 เวลา 00.00 ในราคาเริ่มต้นเพียง 11,999 บาท พร้อมรับฟรี ของแถมสุดพิเศษ Mi Compact Bluetooth Speaker 2 และ Mi Band 3 มูลค่ารวมกว่า 1,489 บาท ของมีจำนวนจำกัด