Featured
รีวิว Xiaomi Redmi Note 6 Pro หน้าจอใหญ่เต็มตา แบตอึด และมี 4 กล้อง AI
Xiaomi Redmi Note 6 Pro สมาร์ทโฟนที่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ เพียบ ในราคาย่อมเยาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ง่าย โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่เต็มตา 6.26 นิ้ว แบตเตอรี่อึด 4000mAh และมีกล้องถ่ายรูปมากถึง 4 ตัวที่มีเทคโนโลยี AI ทำให้ทุกคนสามารถถ่ายภาพออกมาสวยได้ง่ายๆ
สรุปข้อมูลและสเปค Xiaomi Redmi Note 6 Pro
- ราคาเปิดตัว 6,990 บาท (ตุลาคม 2018)
- หน้าจอ 6.26 นิ้ว IPS LCD FullHD+ (1080 x 2280 พิกเซล) อัตราส่วน 19:9
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo กับ EMUI 9.6
- ซีพียู Qualcomm SDM636 Snapdragon 636
- จีพียู Adreno 509
- แรม 4GB
- ความจุ 64GB ใส่เมมเพิ่มได้อีกสูงสุดถึง 256GB (ใส่ช่องซิม 2)
- กล้องหลังคู่ 12 + 5 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าคู่ 20 + 2 ล้านพิกเซล
- รองรับ Wi-Fi ac, Bluetooth 5.0, microUSB
- แบตเตอรี่ 4000mAh รองรับชาร์จเร็ว QC 3.0
ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
Xiaomi Redmi Note 6 Pro มาในกล่องสีส้มเรียบๆ ซึ่งเป็นสีประจำแบรนด์ของ Xiaomi โดยมีอุปกรณ์ภายในกล่องดังนี้
- ตัวเครื่อง Redmi Note 6 Pro และแบตเตอรี่ในตัว
- เคสสีดำ
- อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ
- สายเคเบิล micro USB
- คู่มือใช้งาน และเข็มจิ้มถาดใส่ซิม
ด้านการดีไซน์ตัวเครื่องของ Redmi Note 6 Pro ตัวเครื่องสีดำจะมีความเรียบหรู คลาสสิก ฝาด้านหลังตัวเครื่องมีความโค้งเว้า ซึ่งจะช่วยให้การจับใช้งานกระชับมือมากขึ้น
หน้าจอขนาดใหญ่ 6.26 นิ้ว เป็นแผงหน้าจอ IPS LCD ที่ให้ความสว่างมากถึง 500 nits ทำให้ใช้งานกลางแจ้งก็ยังเห็นสีสันบนหน้าจอที่ค่อนข้างชัดเจนเหมือนเดิม และครอบด้วยกระจกกันรอยขอบโค้งมน 2.5D ทำให้เวลาจับใช้งานรู้สึกดีมากยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่มีขอบคมนั่นเอง
แม้หน้าจอจะมีขนาดใหญ่ แต่ด้วยการดีไซน์ในอัตราส่วนหน้าจอ 19:9 ทำให้ตัวเครื่องไม่ได้ถูกขยายให้ใหญ่ตามไปด้วย ยังคงสามารถจับใช้งานได้ถนัดในมือเดียว หรือจะเก็บใส่กระเป๋ากางเกงก็ทำได้สะดวก
บริเวณเหนือหน้าจอจะมีรอยบากสำหรับเป็นพื้นที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ต่างๆ รวมไปถึงกล้องหน้าเลนส์คู่ที่ใช้สำหรับถ่ายเซลฟี่ให้ออกมาสวยงามในโหมดหน้าชัดหลังเบลอ
ขอบด้านขวามีปุ่มปรับระดับ และปุ่ม Power
ขอบด้านซ้ายมีถาดใส่ซิมแบบไฮบริด สำหรับใส่ซิมขนาด Nano SIM จำนวน 2 ช่อง หรือจะเลือกใส่ microSD card แทนในช่องซิม 2 ก็ได้
ขอบด้านบนจะมีช่องหูฟังมาตรฐาน 3.5mm, ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และอินฟราเรดพอร์ตสำหรับใช้งานเป็นรีโมทคอนโทรลควบคุมเครื่องไฟฟ้าในบ้านได้
ขอบด้านล่างมีลำโพง, ไมโครโฟน และพอร์ต micro USB สำหรับใช้ชาร์จไฟหรือถ่ายโอนข้อมูลผ่านสายเคเบิล
ด้านหลังมีเลนส์กล้องคู่แนวตั้ง และปุ่มสแกนนิ้วมือ จะเห็นว่าดีไซน์โดยรวมของ Xiaomi Redmi Note 6 Pro ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่มีรูปลักษณ์สวยงามและพรีเมียมไม่แพ้รุ่นเรือธงเลยก็ว่าได้
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
Xiaomi Redmi Note 6 Pro มาพร้อมกับ MIUI 9.6.6 ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo เรียกได้ว่าแกะกล่องออกมาใช้งานก็ได้ใช้ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่มีอยู่ในขณะนี้ได้เลย ซึ่งด้านซอฟต์แวร์มีการพัฒนาให้มีการงานร่วมกับหน้าจอ FullScreen แบบมีรอยบากได้อย่างสมบูรณ์ มีระบบจัดการที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงเมนูต่างๆ ได้ง่าย และไม่มีแอพขยะติดตั้งมาให้รกตัวเครื่องด้วย
อัตราส่วนหน้าจอแสดงผล 19:9 ความคมชัดระดับ FullHD+ ทำให้การดูคอนเทนท์บนหน้าจอมีความคมชัด เป็นประโยชน์มากๆ เมื่อดูหน้าเว็บไซต์หรืออ่านบทความ ไม่ต้องเลื่อนหน้าจอบ่อยๆ และเมื่อดูหนังหรือวิดีโอก็จะได้มุมมองภาพแบบเต็มตามากยิ่งขึ้น รวมถึงการเล่นเกมก็จะได้มุมมองภาพในเกมได้กว้างมากขึ้นด้วย
Split Screen ฟีเจอร์การแบ่ง 2 หน้าจอเพื่อเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นได้พร้อมกัน 2 แอพ และสามารถลากที่เส้นแบ่งระหว่าง 2 หน้าจอเพื่อย่อหรือขยายขนาดหน้าจอได้ด้วย ซึ่งรองรับแอพยอดนิยมหลายตัว เช่น Facebook, WhatsApp, Twitter, LINE, YouTube เป็นต้น
สำหรับคอโซเชียลก็มีฟีเจอร์ Dual App สำหรับโคลนแอพให้สามารถใช้งานได้ 2 บัญชีในเครื่องเดียว ซึ่งรองรับแอพโซเชียลเกือบทุกตัว ไม่ว่าจะเป็น LINE, Facebook, Messenger, WhatsApp, WeChat เป็นต้น
Second Space เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราสามารถแบ่งพื้นที่ตัวเครื่องออกจากการใช้งานพื้นที่ปกติได้ แยกออกจากกันไปเลย ไม่เกี่ยวข้องกัน นั่นก็หมายความว่าเราสามารถใช้งานได้เหมือนกับสมาร์ทโฟน 2 เครื่องแต่อยู่ในเครื่องเดียวกัน ซึ่งพื้นที่ที่แบ่งใช้งานใหม่นี้จะต้องใช้รหัสผ่านเพื่อยืนยันตัวตนในการเข้าใช้งาน และสามารถสลับไป-มา ระหว่างพื้นที่ปกติกับพื้นที่ที่สองได้
หากเบื่อหน้าตาแบบเดิมๆ ก็มีระบบ Theme สำหรับให้ผู้ใช้งานเข้าไปดาวน์โหลดใช้งานเพื่อการปรับแต่งหน้าจอได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี
ตัวเครื่องรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ใช้งาน 4G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม รองรับ VoLTE, เชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi ac, Bluetooth 5.0, และพอร์ต micro USB
ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยนอกจากการสแกนลายนิ้วมือแล้ว ยังมีระบบ Face Unlock การปลดล็อคหน้าจอได้ด้วยใบหน้า เพียงกดเปิดหน้าจอแล้วยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาส่องที่ใบหน้าก็จะปลดล็อคได้ทันที ซึ่งการมีทั้ง 2 ฟีเจอร์นี้ถือว่าดีมากๆ เพราะบางสถานการณ์เราไม่สามารถปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือได้ก็ใช้ใบหน้าแทน ในทางกลับกันถ้าไม่สะดวกใช้ใบหน้าปลดล็อคก็แค่วางนิ้วมือเพื่อสแกน
ประสิทธิภาพการทำงาน การเล่นเกม และแบตเตอรี่
Redmi Note 6 Pro รันระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Qualcomm SDM636 Snapdragon 636 Octa-core 1.8GHz Kryo มาพร้อมจีพียู Adreno 509 โดยรุ่นที่ใช้ในบทความนี้เป็นรุ่นแรม 4GB ความจุตัวเครื่อง 64GB และผลการทดสอบ AnTuTu ซึ่งเป็นการทดสอบภาพรวมของการทำงานในส่วนของหน่วยความจำแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 112,928 คะแนน ระดับคะแนนถือว่าทำได้สูงมากเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในระดับราคาเดียวกันในช่วงไม่ถึง 7 พันบาท
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 4 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผล การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Redmi Note 6 Pro ทำคะแนน Single-Core ได้ 1,338 และ Multi-Core ทำได้ 4,422 คะแนน
ทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile สุดยอดเกมแอ็คชั่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนาด้วย Unreal Engine 4 เป็นเกมที่มีภาพและกราฟิกที่สวยงามมาก ต้องใช้การควบคุมทิศทาง และความแม่นยำในการระบุเป้ายิง สามารถเล่นได้อย่างไม่สะดุด ไม่เจออาการกระตุกทั้งการเล่นในโหมดกราฟิกในระดับ HD และภาพความละเอียดสูง
นอกจากภาพสวยและเล่นเกมนี้ได้ลื่นๆ แล้ว ยังพบว่าตัวเครื่องรองรับการสั่นสะเทือนเหมือนกับการเล่นเกมคอนโซลด้วยเมื่อมีการกดยิงปืน ช่วยเพิ่มความสนุกและเล่นได้แบบสมจริงมากๆ ซึ่งฟีเจอร์นี้คอเกมน่าจะชอบกันอย่างแน่นอน
ฟีเจอร์เยอะขนาดหนี้แล้วแบตเตอรี่จะใช้งานได้นานตลอดทั้งวันหรือไม่ ซึ่งแบตเตอรี่ของรุ่นนี้มีความจุมากถึง 4000mAh จากการทดสอบใช้งานเล่นเกมราว 30 นาที เปิดกล้องถ่ายรูปไปเกือบร้อยรูป และเข้าเล่นโซเชียลทั่วไป พบว่าผ่านไปครึ่งวันแบตลดไปประมาณ 51% ซึ่งถือว่าแบตอึดพอสมควร
นอกจากนี้แล้ว Xiaomi Redmi Note 6 Pro ยังรองรับการชาร์จด่วน Quick Charge 3.0 ของ Qualcomm ด้วย แต่ว่าหัวชาร์จที่ให้มาในกล่องรองรับได้เพียง Quick Charge 1.0 ซึ่งถ้าใครอยากชาร์จแบต 4000mAh เต็มไวๆ ก็สามารถหาหัวชาร์จเสริมที่ได้มาตรฐาน QC 3.0 มาใช้งานได้
กล้องถ่ายรูป
Xiaomi Redmi Note 6 Pro มีกล้องหน้าเลนส์คู่ความละเอียด 20 + 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ที่มีขนาดพิกเซล 1.8 ไมครอน และเทคโนโลยี Super Pixel ทำให้ได้ภาพที่คมชัดมากขึ้น มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI Scene recognition จับฉากหลังได้ 12 หมวด และ AI Beautify 4.0 เอาใจคนชอบเซลฟี่ที่สามารถปรับแต่งใบหน้าได้หลายแบบ ได้แก่ หน้าเรียว ตาโต โทนสีผิว และความเนียนของผิว
จะเห็นว่าภาพเซลฟี่จากกล้องหน้ามีความสว่างและได้ภาพใบหน้าที่มีความขาวเนียนเป็นธรรมชาติ พร้อมกับฉากหลังที่ยังสามารถเก็บรายละเอียดได้ดีเช่นเดียวกัน
สำหรับกล้องหน้าในโหมด AI Portrait ซึ่งเป็นการถ่ายในรูปแบบหน้าชัดหลังเบลอ เมื่อเลือกโหมดนี้ตัวกล้องจะแสดงผลหน้าชัดหลังเบลอแบบ Real time ให้เห็นก่อนถ่าย เพื่อให้เราขยับระยะหว่างหรือหันมุมที่ทำให้การละลายฉากหลังทำได้เนียนสวยเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น โดยภาพเซลฟี่ในโหมด AI Portrait พบกว่ากล้องของ Redmi Note 6 Pro สามารถตัดขอบตัวคนและละลายฉากหลังได้ค่อนข้างเนียนมาก และยิ่งถ้าฉากหลังเป็นฉากที่เป็นพื้นเรียบๆ ไม่มีรายละเอียดเยอะ ก็จะทำให้เบลอได้เนียนมากขึ้น
มาถึงในส่วนของกล้องหลังเลนส์คู่ 12 + 5 ล้านพิกเซล ระบบโฟกัสแบบ Dual pixel และรูรับแสงกว้าง f/1.9 ก็มาพร้อมกับ AI Scene recognition สำหรับจับฉากหลังได้ 27 หมวด เช่น อาหาร ต้นไม้ ดอกไม้ ถ่ายภาพคน เป็นต้น
ถ้าเป็นภาพอาหาร ระบบจะทำการเพิ่มเฉดสีให้กับภาพอาหารเป็นโทนสีเหลืองกว่าปกติ เพื่อให้สีสันดูน่ากินมากยิ่งขึ้น
ถ้าเป็นภาพดอกไม้ หรือภาพวิวต้นไม้ ท้องฟ้า ระบบก็จะเพิ่มความเข้มของสีให้มากขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อให้ได้ภาพที่มีสันสดใส ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น
กล้องหลังยังมี AI Beautify 4.0 สำหรับถ่ายภาพใบหน้าให้ออกมาสวยงามเช่นเดียวกับกล้องหน้า และมีโหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ด้วย ซึ่งเป็นการดึงความสามารถของเลนส์คู่ที่ติดตั้งมาให้นั่นเอง
ภาพถ่ายในโหมด Portrait ช่วยให้ตัวคนมีความโดดเด่นมากกว่าการถ่ายในโหมดปกติ และการตัดขอบ รวมไปถึงการทำเอฟเฟ็กต์ละลายฉากหลังก็ทำได้ค่อนข้างเนียนมากๆ
สรุปจุดเด่น
- Xiaomi Redmi Note 6 Pro เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ เยอะมาก ในราคาเพียง 6,990 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในระดับราคาเดียวกันถือว่าให้สเปคที่เหนือกว่าเกือบทุกด้าน
- ชิพเซ็ต Snapdragon 636 และแรม 4GB เพียงพอสำหรับการเล่นเกมกราฟิกสวยๆ ได้แบบลื่นๆ
- ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบความบันเทิง ดูหนัง เล่นเกม ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6.26 นิ้ว FullHD+
- กล้องถ่ายรูปมากถึง 4 ตัวที่มีเทคโนโลยี AI ทำให้ทุกคนสามารถถ่ายภาพออกมาสวยได้ง่ายๆ
- แบตเตอรี่อึด 4000mAh ใช้งานทั่วไปได้ยาวนานเกือบทั้งวัน และรองรับชาร์จด่วน QC 3.0
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ในกล่องจะแถมหัวชาร์จ QC 1.0 แต่ตัวเครื่องรองรับ QC 3.0 อาจต้องซื้อหัวชาร์จมาตรฐานนี้เพิ่มเติมเองถ้าต้องการชาร์จให้เต็มไวขึ้น