Featured
รีวิว Xiaomi Smart Band 7 สายรัดข้อมืออัจฉริยะรุ่นล่าสุด จอ AMOLED 1.62″ | วัดออกซิเจนในเลือด | รองรับโหมดออกกำลังกาย 110+ | แบตเตอรี่ 14 วัน และกันน้ำ 5ATM
รีวิว Xiaomi Smart Band 7 สายรัดข้อมืออัจฉริยะรุ่นล่าสุดจาก Xiaomi ที่อัปเกรดสเปคและฟีเจอร์ขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจทั้ง หน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 1.62″, ฟีเจอร์วัดออกซิเจนในเลือด, หน้าปัดแบบใหม่, รองรับโหมดการออกกำลังกายกว่า 110+ ,แบตเตอรี่อึดทนนานกว่า 14 วัน และแน่นอนว่าราคาเปิดตัวนั้นจับต้องได้แบบสุด ๆ ครับ
ใครที่กำลังมองหาสายรัดข้อมืออัจฉริยะไว้ใช้ตรวจจับการออกกำลังกายหรือคอยเช็ก Noti จากข้อมือ เราว่ารุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ควรพิจารณาเลยล่ะครับ การใช้งานจริงเป็นยังไง ดีไซน์น่าใช้แค่ไหน วันนี้เรารีวิว Xiaomi Smart Band 7 ให้ชมแบบเต็ม ๆ ครับ
คุณสมบัติ Xiaomi Smart Band 7
- ขนาดตัวเครื่อง : 46.5 x 20.7 x 12.25 มม.
- น้ำหนัก : 13.5 กรัม
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 1.62″ ความสว่างสูงสุด 500nits
- เซ็นเซอร์ : เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ PPG, เซ็นเซอร์ตรวจจับการเร่งความเร็ว 3-แกน, เซ็นเซอร์ Gyroscope 3-แกน, เซ็นเซอร์ 6-แกนสำหรับประหยัดพลังงาน
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2
- แอปพลิเคชั่นเชื่อมต่อ : Mi Fitness (รองรับ iOS 10 ขึ้นไป และ Android 6.0 ขึ้นไป)
- มาตรฐานกันน้ำ : 5ATM
อุปกรณ์ภายในกล่อง
ก่อนอื่นเรามาเช็กอุปกรณ์ในกล่องกันก่อนเลย ตัวกล่องจะเป็นสีดำมาตรฐานจะเห็นว่ารอบนี้ Xiaomi พยายามเน้นไปที่ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน ภาพประกอบหน้ากล่องก็เลยเป็นตัว Smart Band 7 เด่น ๆ เลย
เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับอุปกรณ์ 3 อย่างหลัก ๆ ดังนี้ครับ
- Xiaomi Smart Band 7
- สายชาร์จ
- เอกสารคู่มือ
ดีไซน์ที่เรียบง่าย หน้าจอใหญ่ขึ้นอีก 25%
ได้เวลามายลดีไซน์ของ Xiaomi Smart Band 7 กันแล้วครับ ดีไซน์ยังคงมาในแบบเรียบง่าย มีหน้าจอทรงวงรีแบบโค้ง 2.5D เหมือนเดิม แต่จุดที่สังเกตได้ชัด ๆ เลยก็คือขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 25% เป็น 1.62″ แล้ว ทำให้เราสามารถมองเห็นรายละเอียดและตัว UI ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
จอ AMOLED สีสันสวย สู้แสงได้ดีด้วย
นอกจากนี้ในเรื่องการแสดงผล Xiaomi Smart Band 7 ก็ยังใช้จอ AMOLED ที่มีความคมชัดสูงรุ่นนี้มีความหนาแน่นของพิกเซลที่ 326 ppi เลยทีเดียว และสีสันก็สวยสดอีกด้วย ทำให้เวลาเราเลือก Watch Faces หรือหน้าปัดที่มีสีสันฉูดฉาดก็จะได้ความเต็มอิ่มของสีสันเข้าไปอีก
และอีกเรื่องก็คือการสูงแสงที่จอ AMOLED นั้นทำได้ดีทีเดียว รุ่นนี้สามารถแสดงความสว่างสูงสุดได้ถึง 500nits เพียงพอต่อการใช้งานกลางแจ้งได้เป็นอย่างดี แถมยังได้ความสามารถอย่าง Always On Display มาด้วยนะ พอเป็นจอ AMOLED แบบนี้
น้ำหนักเบา สวมใส่ได้สบาย
ตัวสายก็ให้มาเป็นสีดำ ซึ่งถือว่าเป็นแบบมาตรฐานที่ใส่คู่กับทุกลุคได้ง่าย น้ำหนักของ Xiaomi Smart Band 7 จะอยู่ที่ 13.5 กรัม เรียกว่าเบาสบาย สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้แบบไม่ติดขัด
ส่วนวัสดุของสายจะเป็นซิลิโคนที่มีความยืดหยุ่นสูง เราลองยืดจนสุดแรงก็ยังให้ความยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องกังวลว่าจะขาดง่ายเลยล่ะครับ
Xiaomi Smart Band 7 ยังสามารถถอดตัวเครื่องออกจากสายได้ง่าย ๆ เหมือนเดิม เผื่อใครที่อยากเปลี่ยนสายก็ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรให้ยุ่งยาก แค่ดึงออกจากสายรัดแค่นั้นเองครับ
เซ็นเซอร์อยู่ด้านหลังพร้อม Pin ที่ชาร์จ
พลิกมาดูที่ด้านหลังของตัวเรือน Xiaomi Smart Band 7 จะมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ รวมถึงตัว Pin แม่เหล็กสำหรับเสียบชาร์จด้วยครับ
ซึ่งตัว Pin นี้ก็มีแม่เหล็กที่แข็งแกร่งใช้ได้เลย ไม่ต้องกังวลว่าเวลาเราเสียบชาร์จแล้วจะหลุดออกง่ายแต่อย่างใดครับ เราลองดึงสายให้ดูแบบนี้ตัว Band กับสายชาร์จยังติดหนึบไม่หลุดออกจากกันเลยล่ะครับ
กันน้ำลึกได้ระดับ 50 เมตร
และที่ขาดไม่ได้สำหรับอุปกรณ์แนวนี้ก็คือความสามารถกันน้ำครับ ซึ่ง Xiaomi Smart Band 7 นี้ไม่ใช่แค่กันละอองน้ำหรือฝนได้เท่านั้น เพราะได้มาตรฐานมาถึง 5ATM คือลงน้ำลึกได้ที่ระดับ 50 เมตรเลย คือถ้าใครที่ชอบใส่นาฬิกาว่ายน้ำเพื่อตรวจจับไปด้วย รุ่นนี้ทำได้สบาย ๆ ครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ Xiaomi Smart Band 7 ก็ออกมาแบบมาตรฐานของ Xiaomi Smart Band คือเน้นไปที่ความเรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง รอบนี้เพิ่มขนาดหน้าจอขึ้นมาได้อย่างจุใจ แถมสีสันก็สวยสด เหมาะกับคนที่ชอบเปลี่ยน Watch Faces หรือหน้าปัดมาก ๆ เลยล่ะครับ
เชื่อมต่อผ่านแอป Mi Fitness (Xiaomi Wear)
ได้เวลามาเชื่อมต่อและลองใช้งานกันแล้วครับ Xiaomi Smart Band 7 จะใช้การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านระบบ Bluetooth 5.2 ผ่านแอป Mi Fitness หรือ Xiaomi Wear เดิมนั่นเอง ใช้งานได้ทั้งบน Android (Android 6.0 ขึ้นไป) และ iOS (iOS 10 ขึ้นไป) ครับ
ในแอปนี้จะมีการปรับ UI ให้เป็นมิตรมากขึ้น เข้าถึงง่ายกว่าเดิม ซึ่งในแอปนี้ก็จะมีบอกสถานะทุกอย่างที่ตัว Xiaomi Smart Band 7 เก็บค่ามาได้ อาทิ
- ข้อมูลการเดิน และแคลลอรี่ที่เผาผลาญ
- ข้อมูลการออกกำลังกายในแต่ละวัน
- ข้อมูลการนอน
- ข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจ
- ข้อมูลความเครียด
- ข้อมูลการยืน
- ข้อมูลออกซิเจนในเลือด
Watch Faces มีให้เลือกโหลด 100+
อีกหนึ่งสิ่งที่แอป Mi Fitness ทำได้ก็คือการปรับแต่งหน้าปัดหรือ Watch Faces ที่เราสามารถเลือกดาวน์โหลดเพิ่มเติมในออนไลน์ได้มากกว่า 100+ เผื่อที่ให้มาในเครื่องไม่มากพอ หรือจะอยากได้แนวอื่น อยากได้แบบเข็ม แบบดิจิทัลที่มีการแสดงผลเยอะ ๆ หรือจะเป็นแบบการ์ตูนไปเลยก็มีให้เลือกเต็มไปหมดครับ
และอย่างที่บอกพอ Xiaomi Smart Band 7 เป็นจอ AMOLED แบบนี้พวก Watch Faces ก็จะมีแบบที่รองรับ AOD หรือ Always on Display ด้วย ซึ่งในตัวแอปก่อนที่เราจะเปลี่ยนไปใช้ก็จะมีรูปแบบแสดงให้เห็นเลยว่าทั้งโหมดปกติและโหมด AOD เป็นอย่างไรครับ
รองรับฟิตเนสโหมดมากกว่า 110 โหมด
ในส่วนของการออกกำลังกาย Xiaomi Smart Band 7 ก็มีโหมดออกกำลังกายมากกว่า 110 โหมด ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะออกกำลังกายประเภทไหนก็จะมีการเก็บค่าไว้ได้แทบทั้งหมด
วิเคราะห์การออกกำลังกายแบบมืออาชีพด้วย VO₂ max
รีวิว Xiaomi Smart Band 7 รองรับการวิเคราะห์การออกกำลังกายแบบมืออาชีพ VO₂ max และวัดค่าอัตราการใช้ออกซิเจนสุงสุดระหว่างการออกกำลังกายที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการคำนวณอัตราสัมพัทธ์ในหน่วยมิลลิลิตรของออกซิเจนต่อกิโลกรัมมวลกายต่อนาที ซึ่งมี 3 ฟังก์ชันเพิ่มเติม ได้แก่
- รูปแบบการออกกำลังกาย (Training load)
- ระยะเวลาพัก (Recovery duration)
- ผลการฝึก (Training effect)
ด้วยสิ่งเหล่านี้เราสามารถประเมินและปรับตารางการออกกำลังกายเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างง่ายดาย
วัดออกซิเจนในเลือดและอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอดทั้งวัน
อย่างที่บอกไปว่า Xiaomi Smart Band 7 นั้นมีเซ็นเซอร์ Heart Rate มาด้วย ซึ่งทำได้ทั้งตรวจจับการเต้นของหัวใจตรวจสอบและตรวจวัดออกซิเจนในเลือด โดยการตรวจวัดออกซิเจนในเลือดตลอดทั้งวันและจะเตือนเราถึงระดับ SpO₂ ที่ต่ำหรือเมื่อถึงขีดจำกัดที่ความปลอดภัยเพื่อให้พักผ่อนหรือเปลี่ยนอิริยาบทที่ทำอยู่ เช่นเดียวกับการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจและจะประเมินระดับความเครียดเพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้ถึงเมื่อถึงอัตราทั้งสูงและต่ำได้ด้วย
รวมถึงฟังก์ชันการติดตามการนอนหลับ ใครที่คิดว่าการนอนของเราไม่สมบูรณ์รึเปล่า ทำไมนอนไม่เต็มอิ่มเลย หากเราใส่ Xiaomi Smart Band 7 นอนก็จะมีตรวจสอบระยะการนอนหลับและคุณภาพการหายใจให้เราได้ดูในแอป Mi Fitness อีกด้วยครับ
รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ
อย่างที่เราได้เห็นว่าเมนูต่าง ๆ ของ Xiaomi Smart Band 7 นั้นมีเมนูภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้การใช้งานนั้นคล่องตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานต่าง ๆ หรือรับการแจ้งที่เป็นภาษาไทยเลยก็ทำได้ด้วย
แบตฯอึดใช้งานได้นาน 14 วัน
ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่ Xiaomi Smart Band 7 นั้นสามารถใช้งานได้ยาวนานต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตรงนี้ Xiaomi เคลมว่าใช้ได้สูงสุดถึง 14 วันเลยกับการใช้งานทั่วไป ซึ่งเท่าที่เราลองมาก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียว เพราะตั้งแต่แกะกล่องมาเป็นเวลาราว 1 สัปดาห์ก็ยังไม่ต้องกลับไปชาร์จเลยล่ะครับ
ราคาเพียง 1,390 บาท
ราคาก็เป็นอีกสิ่งที่ Xiaomi Smart Band ทำได้ดีมาตลอด มาถึงรุ่นนี้ Xiaomi Smart Band 7 ก็เปิดราคามาเพียง 1,390 บาทเท่านั้น และพิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อในระหว่างวันที่ 7 – 31 กรกฎาคม 2565 สามารถหาซื้อได้ในราคาเพียง 1,290 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ Lazada, Shopee, JD Central
สรุปแล้ว “นี่คือสายรัดข้อมืออัจฉริยะรุ่นล่าสุดที่อัปเกรดทุกจุดได้อย่างลงตัว”
สรุปแล้ว Xiaomi Smart Band 7 ก็ถือว่าเป็นอีกครั้งที่มีการอัปเกรดสเปคขึ้นมาให้น่าใช้งานยิ่งขึ้น เพราะทั้งดีไซน์ที่เรียบหรูสไตล์ Band ที่ลงตัวอยู่แล้ว แต่เพิ่มเติมคือหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น สวยขึ้นและชัดขึ้น มอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าเดิมในน้ำหนักที่ยังเบาและสวมใส่สบาย เชื่อว่าหลายคนอาจจะชอบทรงของสายรัดมากกว่าจะเขยิบไปเป็นสมาร์ทวอทช์ไปเลยเนาะ อีกทั้งฟีเจอร์ที่ให้มาก็ตอบโจทย์มากขึ้นทั้งการออกกำลังกายที่มีมากกว่า 110 แบบ เซ็นเซอร์ที่ช่วยวัดตรวจจับได้ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ, ออกซิเจนในเลือด, การนอนหลับ และที่ขาดไม่ได้คือแบตเตอรี่ให้เราใช้งานได้ยาวนานเป็น 10 วันโดยไม่ต้องมาชาร์จบ่อย ๆ ใครที่กำลังมองหาสายรัดข้อมืออัจฉริยะที่ครบเครื่องสักตัว หรือใช้งาน Mi Band รุ่นเก่าแล้วถึงคราวต้องอัปเกรดแล้ว รุ่นนี้ก็ตอบโจทย์อย่างยิ่งเลยล่ะครับ!