Apple News
เตรียมเงินให้พร้อม iPhone 8 จะเปิดพรีออเดอร์วันที่ 15 และเริ่มจัดส่งวันที่ 22 กันยายนนี้
มีข้อมูลอัปเดทล่าสุดออกมาแล้วเกี่ยวกับกำหนดการเปิดตัวและวางขาย iPhone รุ่นใหม่หรือ iPhone 8 หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 12 กันยายนนี้
ตามรายงานจากเว็บไซต์ Mac4Ever ในฝรั่งเศส ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า iPhone 8 จะเปิดตัวในวันที่ 12 กันยายน ซึ่งตรงกับข้อมูลก่อนหน้านี้ที่ทาง WSJ เคยออกมาเปิดเผย โดยจะเริ่มเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าหรือพรีออเดอร์ในวันศุกร์ที่ 15 กันยายน และเริ่มจัดส่งเครื่องในวันศุกร์ที่ 22 กันยายน นับเป็นระยะเวลา 10 วันหลังจากประกาศเปิดตัว
สรุปฟีเจอร์ใหม่ของ iPhone 8 ตามรายงานก่อนหน้านี้ ที่น่าจะได้เห็นกันในปีนี้
- iPhone รุ่นใหม่ 3 รุ่น : iPhone รุ่นใหม่ในปีนี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น โดยรุ่นพรีเมียม iPhonr 8 จะมีหน้าจอแสดงผลแบบ OLED และอีก 2 รุ่นจะยังคงใช้หน้าจอแบบ LCD ซึ่งเป็นรุ่นที่อัพเกรดมาจาก iPhone 7 และ iPhone 7 Plus
- iPhone 8 จอใหญ่ชิดขอบ : สัดส่วนหน้าจอแสดงผลของ iPhone 8 จะมีสัดส่วนมากขึ้นด้วยการดีไซน์หน้าจอให้ขยายชิดทุกขอบจนแทบไม่เหลือพื้นที่ด้านหน้า
- iPhone 8 จะไม่มีปุ่มโฮมแบบกด : ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ชิดขอบ ทำให้ปุ่มโฮมแบบกดของ iPhone รุ่นใหม่ถูกถอดออกไป และเปลี่ยนไปใช้ปุ่มแบบสัมผัสบนหน้าจอแทน
- ตรวจจับใบหน้า 3 มิติ : iPhone 8 จะมีเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าแบบ 3 มิติ เพื่อเก็บรายละเอียดใบหน้า และให้มิติของโครงหน้าที่สวยสมจริงมากขึ้น
- แรม 3GB : iPhone 8 และ iPhone 7s Plus จะมีแรม 3GB เพื่อให้รองรับการประมวลผลการถ่ายรูปด้วยกล้องหลังคู่ ในขณะที่ iPhone 7s จะมีแรมเพียง 2GB ซึ่งเป็นรุ่นที่มีกล้องหลังตัวเดียว
- ความจุมากขึ้น : iPhone รุ่นใหม่จะมีความจุหรือพื้นที่จัดเก็บตัวเครื่องเริ่มต้น 64GB และสูงสุด 256GB จากเดิมในรุ่น iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มีความจุเริ่มต้น 32GB
- พอร์ต Lightning ยังอยู่ : iPhone รุ่นใหม่ทั้ง 3 รุ่นจะยังคงมีพอร์ตเชื่อมต่อ Lightning เหมือนเดิม แต่ก็รองรับการจ่ายไฟมาตรฐาน IC เช่นเดียวกับกับ USB-C
- มีเพียงไม่กี่สี : iPhone 8 จะมีสีตัวเครื่องเพียงไม่กี่เท่านั้น
- มาทีหลังและจำนวนจำกัด : iPhone 8 ซึ่งเป็นรุ่นพรีเมียมจะเริ่มวางขายช้ากว่ารุ่นอื่นๆ แม้จะเปิดตัวพร้อมกันในเดือนกันยายนก็ตาม และยังจำนวนจำกัดอีกด้วย
- ขายดิบขายดี : iPhone รุ่นใหม่ทั้ง 3 รุ่นในปีนี้คาดทำยอดขายได้ราว 80 – 85 ล้านเครื่องในปี 2017
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นจริงหรือไม่ คงต้องรอติดตามดูกันไปอีกเพียงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ก็จะได้ทราบกันแล้ว