เปิดตัว ZTE Axon 40 Ultra เวอร์ชั่น Global เตรียมวางจำหน่ายในหลายประเทศ รวมถึงไทย 21 มิ.ย.นี้

ZTE Axon 40 Ultra สมาร์ทโฟนกล้องใต้หน้าจอรุ่นล่าสุดเปิดตัวในประเทศจีนไปเมื่อต้นเดือนก่อน ล่าสุดก็เปิดตัวเวอร์ชั่น Global ออกมาแล้วครับ รุ่นนี้มาพร้อมจุดเด่นหลักคือกล้องใต้หน้าจอรุ่นใหม่ ที่ทำได้เนียนตาขึ้นมาก แสดงผลหน้าจอแบบเต็มไร้รูกล้องหรือรอยบากมากวนใจ

ดีไซน์และหน้าจอ ZTE Axon 40 Ultra

ดีไซน์ของ ZTE Axon 40 Ultra เวอร์ชั่น Global ก็มาแบบเดียวกับเวอร์ชั่นที่เปิดตัวในจีนเลย ใช้ทรงเหลี่ยมมาพร้อมขนาดตัวเครื่อง 163.2 x 73.5 x 8.4 มม. น้ำหนัก 204 กรัม แต่เวอร์ชั่นนี้จะมีให้เลือกเพียงสีเดียวคือสีดำครับ

ZTE Axon 40 Ultra ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.81″ ความละเอียด FHD+ (2480 x 1116 พิกเซล) refresh rate สูง 120Hz รองรับการแสดงผลที่ 10bits 1 พันล้านสี 100% DCI-P3 color gamut ที่หน้าจอนอกจากกล้องที่ซ่อนอยู่ข้างใต้แล้วก็ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอด้วยเช่นกันครับ

สเปค ZTE Axon 40 Ultra

สำหรับสเปคก็จัดเต็มใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 เวอร์ชั่น Global จะมีความจุให้เลือก 2 ความจุคือ 8GB + 128GB และ 12GB + 256GB มีไม่ถึง 1TB แบบเวอร์ชั่นจีนครับ

มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh และชาร์จไวที่ 65W ได้ลำโพงคู่ Stereo รองรับระบบเสียง DTS Ultra มอเตอร์สั่นแบบ X-axis linear ในเรื่องการเชื่อมต่อ dual-SIM, Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.2, NFC, และพอร์ตแบบ USB-C

กล้อง ZTE Axon 40 Ultra

ปิดท้ายที่เรื่องกล้อง ZTE Axon 40 Ultra มาพร้อมกล้องหน้า 16MP ขนาดพิกเซล 2.24μm เป็นกล้องใต้หน้าจอรุ่นที่ 3 มาพร้อมกับไดรเวอร์พิกเซลอิสระ วงจรโปร่งใสแบบกระจาย และชิปแสดงผลหน้าจอ UDC Pro โดยเฉพาะ ZTE เคลมว่าสามารถถ่ายเซลฟี่ได้ยอดเยี่ยมไม่ต่างจากเรือธงรุ่นอื่นในท้องตลาดเลย

ส่วนกล้องหลังจัดเต็มด้วยกล้องความละเอียด 64MP ทั้ง 3 ตัวแบ่งเป็น กล้องหลัก 64MP เซ็นเซอร์ Sony IMX787 พร้อม OIS + กล้อง Ultra Wide 64MP เซ็นเซอร์ Sony IMX787 พร้อม OIS + กล้อง Periscope 64MP

ราคา ZTE Axon 40 Ultra

ปิดท้ายที่ ZTE Axon 40 Ultra มีให้เลือก 2 ความจุอย่างที่บอกไปและราคาดังนี้

• 8GB + 128GB ราคา $799 หรือประมาณ 27,500 บาท
• 12GB + 256GB ราคา $899 หยวนหรือประมาณ 30,970 บาท

โดยจะเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 21 มิถุนายน ในหลายประเทศทั้งโซนอเมริกา, ยุโรป, ตะวันออกกลาง, แอฟริกา, เอเชียรวมถึง ประเทศไทยด้วยครับ ตามข้อมูลระบุมาแบบนี้ แฟน ๆ ชาวไทยก็รอติดตามได้เลยว่าเจ้าไหนจะเป็นตัวแทนในรอบนี้

ที่มา : GSMArena, ZTE