รีวิว ZTE Blade V7 Lite ดีไซน์เรียบหรู มีสแกนนิ้วมือ ราคาประหยัด

ZTE Blade V7 Lite สมาร์ทโฟนตัวเครื่องอะลูมิเนียมเพรียวบางเพียง 7.9 มม. ชูจุดเด่นด้วยกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง

สรุปข้อมูลและสเปค ZTE Blade V7 Lite

• ราคาเปิดตัว 4,990 บาท (กรกฎาคม 2016)
• ขนาดตัวเครื่อง 143.8 x 70.2 x 7.9 มม.
• น้ำหนัก 133 กรัม
• 3G, 4G LTE Cat.4
• ใช้งานได้ 2 ซิม (ขนาดซิม Nano SIM + Nano SIM)
• หน้าจอแสดงผล 5 นิ้ว HD IPS LCD
• รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow
• ชิปเซ็ต Mediatek MT6735P
• ซีพียู Quad-core 1.0 GHz Cortex-A53
• แรม 2 GB
• ความจำภายในตัวเครื่อง 16GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 256 GB (ใส่ช่องซิม 2)
• กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, ระบบออโต้โฟกัส และแฟลช LED
• กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และแฟลช LED
• รองรับ Wi-Fi b/g/n, Bluetooth 4.0
• รองรับระบบ GPS, A-GPS
• แบตเตอรี่ 2,500 mAh ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• ตัวเครื่อง ZTE Blade V7 Lite พร้อมแบตเตอรี่ในตัว
• อะแดปเตอร์แปลงกระแสไฟ
• สายเคเบิล micro USB
• หูฟัง
• เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
• คู่มือการใช้งาน

ตัวเครื่อง ดีไซน์ และหน้าจอแสดงผล

ZTE Blade V7 Lite มีวัสดุตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียม มีความบางเพียง 7.9 มม. และมาพร้อมหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะมือ ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ใช้งานมือเดียวได้สะดวก

หน้าจอของ ZTE Blade V7 Lite เป็นแผงหน้าจอแบบ IPS LCD ความละเอียด 720 x 1280 พิกเซล มีความหนาแน่นของจุดพิกเซลประมาณ 294 พิกเซลต่อนิ้ว (PPI) ให้สัดส่วนหน้าจอประมาณ 68.3% ของตัวเครื่อง ถือเป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดอีกรุ่นที่มีขอบจอค่อนข้างบาง

กระจกที่ครอบหน้าจอเพื่อปกป้องรอยขีดข่วนเป็นกระจกแบบขอบโค้งมน 2.5D และเมื่อหน้าจอปิดอยู่จะเห็นเหมือนตัวเครื่องไม่มีขอบจอ

เหนือหน้าจอ เริ่มจากทางด้านซ้ายจะมีไฟแฟลช LED สำหรับเซลฟี่ในที่มืด, ลำโพงสำหรับเสียงสนทนา, ไฟแจ้งเตือน LED, เลนส์กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

ล่างหน้าจอมีปุ่มสัมผัส 3 ปุ่ม โดยปุ่มตรงกลางจะเป็นปุ่มโฮม และปุ่มซ้าย-ขวา สามารถสลับใช้งานเป็นปุ่มย้อนกลับหรือปุ่ม Recent App ตามความถนัดของแต่ละคนได้

ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.

ขอบด้านล่างมีไมโครโฟน และพอร์ตเชื่อมต่อขนาด micro USB สำหรับชาร์จแบตหรือถ่ายโอนข้อมูลผ่านสายเคเบิล

ขอบด้านขวามีปุ่ม Power และช่องถาดใส่ซิม ซึ่งเป็นถาดซิมแบบไฮบริด เลือกใส่ทั้ง 2 ซิมหรือเลือกใส่ microSD card ก็ได้

ขอบด้านซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง

ด้านหลังของ ZTE Blade V7 Lite มีลักษณะผิวเรียบ ซึ่งวัสดุหลักคืออะลูมิเนียม ไม่สามารถแกะฝาหลังออกเองได้ โดยภายในมีแบตเตอรี่ชนิด Li-Ion ขนาดความจุ 2,500 mAh และบริเวณด้านหลังส่วนล่าง จะมีช่องลำโพง 2 ช่อง ซึ่งดีไซน์ให้ดูสวยงาม ไม่ใช่ลำโพงสเตอริโอ โดยจะมีลำโพงอยู่เพียงด้านเดียวคือด้านซ้าย

เลนส์กล้องหลังมีขนาดความละเอียด 13 ล้านพิกเซล โมดูลของกล้องจะนูนขึ้นมาเหนือฝาหลังเล็กน้อย และมีไฟแฟลช LED จำนวน 1 ดวง

ถัดลงมาจากกล้องหลังเล็กน้อย จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ซึ่งตัวเซ็นเซอร์จะมีลักษณะกลม รองรับการแตะเพื่อสแกนนิ้วได้ทุกองศา

อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน

ZTE Blade V7 Lite รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ปลดล็อคหน้าจอโดยการปัดหน้าจอหรือใช้ลายนิ้วมือที่บันทึกเอาไว้แล้ว แตะที่ตัวเซ็นเซอร์นิ้วมือด้านหลังเพื่อปลดล็อคก็ได้เช่นกัน

ในหน้าจอหลักหรือหน้าโฮมของ ZTE Blade V7 Lite สามารถจัดวางวิดเจ็ตและจัดเรียงไอคอนแอพพลิเคชั่นทุกตัวที่ติดตั้งอยู่ในตัวเครื่อง เพราะอินเตอร์เฟซของ ZTE ไม่มีในส่วนของ App Drawer โดยในหน้าโฮมสามารถเลือกเปลี่ยนสี, ภาพวอลเปเปอร์, ลักษณะไอคอน และเอฟเฟ็กต์การเลื่อนหน้าจอ

ZTE Blade V7 Lite รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ใช้งาน 3G/4G LTE ได้ทุกเครือข่ายในไทย สามารถเลือกได้ว่าจะให้ช่องซิมใดใช้งาน 3G/4G LTE ส่วนอีกซิมก็จะสลับไปใช้งานเครือข่าย 2G อัตโนมัติ

นอกจากนี้ก็ยังรองรับเครือข่าย Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi Direct, ใช้เป็นจุดกระจายสัญญาณ Wi-Fi Hotspot และรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4.0

ZTE Blade V7 Lite มีโหมดการสั่งงานด้วยท่าทางและเคลื่อนไหวด้วย เช่น การใช้ตัวเครื่องโทรศัพท์วาดท่าทางในอากาศเป็นตัวอักษรเพื่อเปิดใช้งานตามที่ได้ตั้งค่าไว้ หรือการวาดตัวอักษรบนหน้าจอขณะหน้าจอปิดอยู่ เพื่อเรียกใช้งานแอพนั้น ๆ ตามที่ได้ตั้งค่าไว้ เป็นต้น

ปุ่มกดนำทางสามารถเลือกสลับระหว่างปุ่มย้อนกับกับปุ่มเมนู (ปุ่มรายการ) ได้ เผื่อว่าใครถนัดซ้ายหรือขวาก็เลือกได้ตามสะดวก

ระบบจดจำลายนิ้วมือของ ZTE Blade V7 Lite สามารถจดจำได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ การทำงานของตัวเซ็นเซอร์ถือว่าตอบสนองไวในการบันทึกลายนิ้วมือ แต่เมื่อใช้งานจริง อย่างเช่นการแตะเพื่อปลดล็อคหน้าจอ พบว่ามีการตอบสนองค่อนข้างช้า บางครั้งต้องแตะซ้ำจึงจะสามารถปลดล็อคได้

ลายนิ้วมือสามารถใช้ปลดล็อคหน้าจอ, ล็อคแอพพลิเคชั่น, ผูกลายนิ้วมือแต่ละนิ้วกับแอพ เพื่อแตะปลดล็อค แล้วเปิดใช้งานแอพนั้นได้เลย, แตะ/เลื่อนเพื่อสั่งงานแอพพลิเคชั่นบางตัว และใช้แตะเพื่อจับภาพหน้าจอได้

ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช

• Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
• Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
• Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
• Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
• Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
• Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
• รองรับมัลติทัชสูงสุด 5 จุด

ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน

ZTE Blade V7 Lite รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ใช้ชิปประมวลผล Mediatek MT6735P Quad-core 1.0GHz Cortex-A53 กับจีพียู Mali-T720MP2 และแรม 2GB

โดยผลการทดสอบ AnTuTu v6.1.4 ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 22,867 คะแนน

ผลการทดสอบด้วย Geekbench v3.4.1 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Blade V7 Lite ทำคะแนน Single-Core ได้ 397 และ Multi-Core ทำได้ 1,129 คะแนน

กล้องถ่ายรูป

ZTE Blade V7 Lite มีกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, ระบบออโต้โฟกัส รองรับการถ่ายภาพได้ขนาดสูงสุด 13 ล้านพิกเซล ในอัตราส่วน 4:3 ซึ่งในส่วนของการแตะหน้าจอเพื่อเลือกโฟกัสก็ถือว่าทำได้รวดเร็วดี

ฟีเจอร์ของกล้องมีโหมดให้เลือกใช้งานหลัก ๆ 5 โหมด ได้แก่ โหมดออโต้ (ปกติ), HDR, พาโนรามา, บิวตี้ (สวยงาม) และยิ้ม หรือจะเลือกฟิลเตอร์ก่อนถ่ายภาพก็ได้เช่นกัน เช่น การถ่ายภาพขาวดำ โดยการเลือกฟิลเตอร์ โมโน เป็นต้น

นอกจากนี้แล้วก็รองรับการแนบตำแหน่งแผนที่ลงในภาพถ่าย, สั่งชัตเตอร์ด้วยเสียง “Capture” หรือ “Cheese” และ ระบบตรวจจับใบหน้า ส่วนการบันทึกวิดีโอรองรับความละเอียดสูงสุด HD 720p

กล้องหน้าของ ZTE Blade V7 Lite มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มาพร้อมโหมดบิ้วตี้ ที่สามารถปรับความเรียบเนียนได้ 4 ระดับ หรือจะเป็นโหมดนาโนรามาหน้า สำหรับเซลฟี่กันเป็นกลุ่ม เพื่อเก็บภาพได้มุมกว้างขึ้น เป็นต้น

ตัวอย่างภาพถ่าย

สรุปจุดเด่น

• ZTE Blade V7 Lite ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีบอดี้อะลูมิเนียม ดีไซน์สวย และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ในราคาไม่เกิน 5 พันบาท
• หน้าจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว ความคมชัดระดับ HD และรันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow กับความจำแรม 2GB ถือว่าสมเหตุสมผลกับระดับราคาของรุ่นนี้
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ใช้งานได้ทั้ง 3G/4G
• กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, ระบบออโต้โฟกัส และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED

จุดสังเกตเพิ่มเติม

• ถาดใส่ซิมเป็นแบบไฮบริด ต้องเลือกว่าจะใส่ 2 ซิมหรือใส่ microSD card และเลือกสลับใช้งาน 3G/4G ได้เพียงช่องซิมเดียว ส่วนอีกช่องก็จะสลับไปใช้งานเครือข่าย 2G อัตโนมัติ
• การเล่นเกมที่มีกราฟิกสวย ๆ จะเจออาการหน่วงและกระตุกบ้าง

ขอบคุณ ZTE Mobile Devices Thailand